“พิมพ์ภัทรา” จ่อดึงสถานประกอบการผลิตพลุเข้าข่ายเป็นโรงงาน คุมความปลอดภัย
“พิมพ์ภัทรา” เล็งดึงสถานประกอบการผลิตพลุเข้าข่ายเป็นโรงงาน หวังคุมความปลอดภัย ชีวิตและทรัพย์สินประชาชน ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดความปลอดภัยโรงงานตามหลักวิศวกรรม
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดที่สถานประกอบการผลิตพลุ ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ตรวจสอบทันที เบื้องต้นพบว่า สถานประกอบกิจการดังกล่าว ประกอบกิจการผลิตประทัดลูกบอลไล่นก และพลุประเภทอื่น มีคนงานประมาณ 30 ราย และไม่มีการใช้เครื่องจักรในการประกอบกิจการ ให้คนงานใช้มือในการบรรจุดินปืนและประกอบส่วนต่างๆ จึงไม่เข้าข่ายการเป็นโรงงาน ที่ต้องมีคนงานเกิน 50 ราย และใช้เครื่องจักรประกอบกิจการ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการรายดังกล่าวมีใบอนุญาตเกี่ยวกับดอกไม้เพลิง เป็นการออกให้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย และได้ตรวจสอบพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และไม่พบว่ามีสารโพแทสเซียมคลอเรต ที่ใช้ในการจัดทำดอกไม้เพลิงนี้จัดอยู่ในบัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นความปลอดภัยของประชาชนรอบสถานประกอบการ กระทรวงฯ จึงอยู่ระหว่างประสานหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีความจำเป็น อาจต้องกำหนดให้การประกอบกิจการประเภทนี้ เข้าข่ายเป็นโรงงาน ตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ เพื่อที่กระทรวงฯ จะได้เข้าไปมีส่วนกำหนดเงื่อนไขการประกอบกิจการ กำกับดูแลให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรม ทั้งด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ให้เกิดความรอบคอบรัดกุม เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะนี้อีก
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นกรมโรงงานอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัด ให้เข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และให้รายงานกลับมา เบื้องต้นแม้ว่า สถานประกอบกิจการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน ไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมโดยตรง แต่ได้ให้หน่วยงานเข้าไปให้ความรู้และสนับสนุนการจัดความความปลอดภัยในโรงงานผลิตดอกไม้เพลิง
"ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะนำสถานประกอบการลักษณะดังกล่าวเข้าเป็นโรงงานหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนโดยรอบพื้นที่ และในตัวสถานประกอบการเองด้วย”
ที่ผ่านมาช่วงเดือนก.ค. 66 เคยเกิดเหตุการณ์โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้พื้นที่ชุมชุมโดยรอบกว่า 500 เมตร เสียหายอย่างหนัก มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมากมาแล้วเช่นกัน