EEC แนะ กลุ่มCP ยื่นอุทธรณ์สิทธิ์BOI ขอส่งเสริมลงทุนไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน
เลขาฯอีอีซี เปิดช่อง เอกชนยื่นอุทธรณ์บีโอไอขอขยายระยะเวลาส่งเสริมการลงทุนโครงการ ไฮสปีด “ภูมิธรรม” สั่งดูข้อกฎหมาย ช่วยให้โปรเจ็กต์เดินหน้าได้ ไม่อยากเห็นโครงการต้องนับหนึ่งใหม่ รับการแก้สัญญายังอยู่ในขั้นตอนคุยกันระหว่าง รฟท.กับเอกชน เตรียมกำหนดกรอบเวลาใหม่
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยถึงงกรณีที่ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด บริษัทในเครือซีพี ซึ่งได้รับสัมปทานการลงทุนและเดินรถไฟความเร็วสูงในโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) แต่ไม่ได้รับการต่ออายุ บัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หลังจากหมดอายุไปตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.67 ว่าในเรื่องนี้เอกชนสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อบีโอไอในการขยายระยะเวลาได้ซึ่งได้แนะนำให้เอกชนยื่นไปที่บีโอไอตามขั้นตอน
ส่วนการดำเนินการแก้ไขสัญญาของโครงการนั้นอยู่ในระหว่างการหารือกับภาคเอกชนและดำเนินการอยู่ ในเรื่องของไฮสปีดเทรนด์นั้นจึงไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอีอีซีในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมาการขอขยายบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอได้ดำเนินการได้ 3 ครั้ง ครั้งละ 4 เดือน โดยบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ได้ยื่นขอขยายบัตรส่งเสริมจากบีโอไอ 2 ครั้ง เป็นเวลา 8 เดือน และครั้งสุดท้ายนี้ได้ขอยื่นต่ออายุไปอีก 4 เดือน คือหมดอายุในวันที่ 22 พ.ค.2567 ซึ่งบีโอไอไม่อนุมัติต่อใบอนุญาตการส่งเสริมการลงทุนให้แล้วเนื่องจากมีการต่ออายุมาแล้ว 2 ครั้ง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมวพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการอีอีซี ระบุว่าตนได้รับทราบปัญหาเรื่องนี้แล้วแต่รอการรายงานรายละเอียดจากคณะกรรมการ โดยได้ให้แนวนโยบายกับเลขาธิการอีอีซีแล้วว่าให้ดูในกรอบเรื่องของกฎหมายให้รอบคอบ
โดยหากสามารถดำเนินการได้และทำให้โครงการเดินไปข้างหน้าได้ก็ขอให้เร่งดำเนินการ เพราะโครงการไฮสปีดเทรนนั้นถือเป็นโครงการสำคัญของอีอีซีที่มองว่ามีความจำเป็นที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของโครงการ
ส่วนประเด็นที่บีโอไอจะต่อสิทธิ์ประโยชน์ให้กับเอกชนที่ได้รับสัมปทานหรือไม่นั้นก็ต้องดูเงื่อนไข และข้อกฎหมายแต่ก็มองว่าเรื่องนี้ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่เอกชนจะตัดสินใจว่าลงทุนในโครงการนี้หรือไม่
เมื่อถามว่าหากในเรื่องนี้ติดขัดเรื่องของงบประมาณที่จะดำเนินโครงการเพราะเอกชนขอแก้สัญญาให้รัฐบาลจ่ายเงินในระหว่างการก่อสร้าง แทนที่จะสร้างเสร็จเป็นช่วงแล้วรัฐบาลจ่ายเงินให้ นายภูมิธรรมกล่าวว่าเรื่องนี้ต้องดูรายงานที่มีการพูดคุยและดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปก็ต้องฟังรายละเอียดทั้งหมดแล้วกำหนดกรอบเวลาในการทำงานใหม่
“โครงการนี้มีปัญหาที่สะสมมาตั้งแต่ในอดีต วันนี้เราก็พยายามที่จะเข้ามาแก้และขับเคลื่อนโครงการไปข้างหน้าให้ได้ เราอยากเห็นโครงการเดินไปข้างหน้าได้มากกว่าหยุดอยู่กับที่” นายภูมิธรรม กล่าว