‘ครม.’ ไฟเขียวเว้นภาษี ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ดันไทยฮับ ‘Digital Asset’

‘ครม.’ ไฟเขียวเว้นภาษี ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’  ดันไทยฮับ ‘Digital Asset’

‘ครม.’ ไฟเขียวเว้นภาษี ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ดันไทยฮับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของภูมิภาค หนุนการซื้อขายคริปโต และโทเคนดิจิทัล ที่ซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป แบบไม่กำหนดเวลาสิ้นสุด

นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2567) มีมติอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระภาษีสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล)ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ  โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

 

1. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการโอน (ขาย) สินทรัพย์ดิจิทัล

1.1. คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) และโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility token) ที่ซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป “แบบไม่กำหนดเวลาสิ้นสุด”

1.2. โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment token) ให้ได้รับยกเว้น VAT ตามเดิม

‘ครม.’ ไฟเขียวเว้นภาษี ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’  ดันไทยฮับ ‘Digital Asset’

2. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ซื้อขายผ่านทั้ง 3 ช่องทาง ได้แก่

1) ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange)  

2) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker)

และ 3) ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. จากเดิมที่ได้ยกเว้นเฉพาะ Exchange


3. กระทรวงการคลังและ สำนักงาน ก.ล.ต. กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีการกำหนดให้ “โทเคนดิจิทัล” บางลักษณะเป็น “หลักทรัพย์”

โดยประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับในครั้งนี้คือ

1.ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มมีความเท่าเทียมกันในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยที่อยู่ในการกำกับดูแลของรัฐ

2.การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของนักลงทุนในประเทศไทยเกิดขึ้นผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยที่อยู่ในการกำกับดูแลของรัฐ

3.นักลงทุนในประเทศไทยที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีเพิ่มขึ้น

4.ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามมา

"การที่ ครม.อนุมัติเว้นภาษี VAT ในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ปีละประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่สูญเสียไม่มากนัก แต่ช่วยส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของภูมิภาคได้"