‘เศรษฐา’ สั่งแก้ปัญหา ‘สินค้าจีน’ ตีตลาด งัด 'ภาษี' ป้องสินค้าไทยเสียเปรียบ
"เศรษฐา" สั่ง "คลัง" หามาตรการช่วยสินค้าไทยได้รับผลกระทบจากสินค้าจีนตีตลาด สั่งเข้มงัดมาตรการภาษี เก็บแวตนำเข้าสินค้า ให้ปลัดคลัง หารืออธิบดีกรมสรรพากร และอธิบดีกรมศุลกากร หามาตรการเพิ่มเติมลดผลกระทบผู้ประกอบการไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ทวิตเตอร์ (X) ส่วนตัวว่าตนเองได้รับเอกสารข้อเสนอคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เกี่ยวกับแนวทางการรับมือในเรื่องสินค้าจีน ตีตลาดสินค้าไทยแล้ว และได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงการคลังนัดหารือร่วมกับอธิบดีกรมสรรพากร และอธิบดีกรมศุลกากร ในวันนี้ทันที
อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ควรจะทำได้ คือการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการในประเทศเสียเปรียบ สำหรับประเด็นอื่น ๆ จะหารือในรายละเอียดเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาให้สำเร็จต่อไปอีกครับ
พบปัญหาอย่างน้อย 3 เรื่อง จากกรณีสินค้าจีนตีตลาดไทย จนสร้างความกังวลต่อผู้ผลิตไทยที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ คือ
1. มีการสำแดงเท็จ ผ่าน Free Trade Zone ให้ต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อตั้งใจเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. มีสินค้าราคาถูกโดยเฉพาะจากประเทศจีนทุ่มตลาดในไทยจากสินค้าออนไลน์และการเข้ามาใช้ประโยชน์จาก Free Trade Zone ที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์ทางอากรศุลกากรในการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ
และ 3. มีการลักลอบนำสินค้าผ่านด่านศุลกากรโดยการสำแดงข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี สามข้อนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้ค้ารายย่อยไทย ได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ เนื่องจากสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ราคาถูกกว่าเพราะได้รับการยกเว้นภาษี ทั้งยังเป็นสินค้าคุณภาพต่ำขาดการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ และยังมีปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย