เม.ย.นี้ ลุ้นเปลี่ยนมือ ‘ผู้ว่าการรถไฟฯ’ ท่ามกลางวิกฤติสัญญา ‘ไฮสปีดเทรน’
จับตา เม.ย.นี้ ลุ้นเปลี่ยนมือผู้ว่าการรถไฟฯ “นิรุฒ มณีพันธ์” หลังดำรงตำแหน่ง 4 ปีครบวาระแรก หวั่นเกียร์ว่างกระทบงานสะดุด ท่ามกลางวิกฤติสัญญา “ไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน” ยังค้างท่อ ด้านพนักงานแห่ให้กำลังใจต่อภารกิจอีกสมัย
24 เม.ย.2567 ครบวาระแรก “นิรุฒ มณีพันธ์” ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมระยะเวลา 4 ปี โดยนับเป็นผู้ว่าการรถไฟฯ คนที่ 19 และเป็นอีกหนึ่งคนนอกที่เข้ามาบริหารองค์กรรัฐวิสาหกิจผลขาดทุนสะสม 2 แสนล้านบาท และอยู่ภายใต้การฟื้นฟูกิจการ
โดยโจทย์สำคัญของการบริหารองค์กรนี้ คือ การเร่งหารายได้ สู่เป้าหมายลดปัญหาการขาดทุนและมีกำไรก่อนหักภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 0 ภายในปี 2570 ตามแผนฟื้นฟูกำหนด ซึ่งผลงานเด่นชัดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการเร่งหารายได้ทั้งด้านโดยสารและสินค้าและธุรกิจ Non - core โดยเฉพาะการหารายได้จากขบวนรถท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และขยายพันธมิตรขนส่งพัสดุ
ขณะที่ผลงานการผลักดันโครงการลงทุนด้านระบบราง ได้เริ่มต้นตอกเสาเข็มโครงการรถไฟสายใหม่ ช่วงเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะจะรองรับการเดินทาง และขนส่งสินค้าเชื่อมกับ สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วยส่งเสริมการเดินทาง การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2571
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา การขับเคลื่อนอีกหนึ่งบิ๊กโปรเจกต์อย่าง “ไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน” ยังคงไม่คืบหน้า ด้วยจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้เอกชนคู่สัญญาต้องขอรับการชดเชยจากรัฐบาล และเป็นที่มาของการปรับแก้สัญญา ขณะที่การเตรียมความพร้อมส่งมอบพื้นที่ของภาครัฐ พบว่า ร.ฟ.ท.มีความพร้อมส่งมอบช่วงสุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา 100% เพื่อให้เอกชนเริ่มงานก่อสร้าง
ทั้งนี้ สถานะปัจจุบันของโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินล่าช้ากว่าแผนอย่างมาก จากแผนแรกที่มีเป้าหมายจะเปิดให้บริการภายในปี 2567 แต่กลับพบว่าขณะนี้ยังไม่สามารถตอกเสาเข็มเริ่มงานก่อสร้างได้ โดยยังติดปัญหาไม่สามารถออกหนังสืออนุญาตเข้าพื้นที่ (NTP) เนื่องจากภายใต้สัญญากำหนดไว้ว่าการออกหนังสือ NTP เอกชนจะต้องได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
นายอนันต์ โพธ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างพิจารณาผลการยื่นอุทธรณ์ขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัท เอเชีย เอรา วัน ก่อนนำมากำหนด และพิจารณาว่าจะเดินหน้าออกหนังสือ NTP อย่างไร ทั้งนี้จากการประเมินภาพรวมโครงการในปัจจุบัน แม้จะล่าช้ากว่าแผน แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท.ประเมินกรอบเวลาในการออกหนังสือ NTP และลงนามแก้ไขสัญญาใหม่ภายในเดือน พ.ค.นี้ ดังนั้นปัจจุบันยังถือว่ามีเวลาในการพิจารณาและเจรจาร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อสรุปในการดำเนินงานที่ดีที่สุด
“ขณะนี้การรถไฟฯ มีความพร้อมที่จะส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา แก่เอกชนครบ 100% ตั้งแต่เดือนต.ค.2564 รวมทั้งการส่งมอบพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการของโครงการ (TOD มักกะสัน) ส่วนประเด็นก่อสร้างทางร่วมช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง ไม่ได้เป็นเงื่อนไขของการพิจารณาแก้ไขร่างสัญญา ดังนั้นเรื่องนี้ยังมีเวลาที่จะเจรจาร่วมกัน”
จากไทม์ไลน์การแก้ไขปัญหา “ไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน” จึงจะเห็นได้ว่า ร.ฟ.ท.มีเป้าหมายเคลียร์จบภายในเดือน พ.ค.2567 ซึ่งจะเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับการเปลี่ยนมือตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ ที่กำลังจะหมดวาระในเดือน เม.ย.2567 ดังนั้นคงต้องจับตาดูกันว่ากระทรวงคมนาคมจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ต่ออายุผู้ว่าคนเดิมหรือสรรหาใหม่ และการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินค้างท่อต่อไปหรือไม่
ขณะที่ปัจจุบันมีเสียงสะท้อนจากพนักงาน และลูกจ้างการรถไฟแห่งประเทศไทย จากฝ่าย/สำนักงานต่างๆ ที่ออกมาแสดงพลังสนับสนุนนายนิรุฒ มณีพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำหน้าที่ในอีกสมัยต่อไป เพราะมองว่าจะสามารถทำให้ภารกิจของการรถไฟฯ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีตามแผนงานกำหนด และไม่กระทบต่อการบริหารงานสะดุด ที่มักเกิดขึ้นในช่วงเกียร์ว่างส่งไม้ต่อผู้บริหารคนใหม่