กรมวิชาการเกษตร เร่งออกเกณฑ์ GEd เทคนิคเพิ่มผลผลิต ต้นทุนต่ำ ไม่ใช่ GMOs
กรมวิชาการเกษตร เล็งร่างหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม หลัง EU ไฟเขียว รับรองพืชปรับแต่งจีโนม (GEd) และเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ปลอดภัยสูง เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม และไม่เป็นพืช GMOs ใช้เวลาสั้น ต้นทุนต่ำทางออกสร้างความมั่นคงด้านอาหารโลก
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2567 EU โดย รัฐสภายุโรป (European parliament) มีมติรับรองเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม หรือเทคนิคจีโนมแบบใหม่ (GEd, New Genomic Techniques (NGTs), Genome editing) เป็นผลให้พืชที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (GEd) และเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ มีความปลอดภัยสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่จัดเป็นพืช GMOs และจะถูกพิจารณาเช่นเดียวกับพืชที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์แบบปกติ ไม่ใช้กฎหมายและหลักเกณฑ์เดียวกันกับพืช GMOs อีกต่อไป
ผลการลงมติในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารของยุโรป และการทำให้การผลิตทางการเกษตรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กฎระเบียบใหม่นี้จะอนุญาตให้มีการพัฒนาพันธุ์พืชที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งสามารถรับประกันผลผลิตที่สูงขึ้น ทนต่อสภาพอากาศและใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงน้อยลง โดยในขั้นตอนหลังจากนี้ รัฐสภายุโรปจะดำเนินการเจรจากับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในการร่างกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผลการลงมติของสหภาพยุโรปครั้งนี้ ตอบโจทย์ และสอดคล้องกับนโยบายของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงนโยบายของรัฐบาลอย่างถูกเวลา ซึ่งสมาชิกสภายุโรปเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมที่มีความปลอดภัยสูงต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มาช่วยในการลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพและผลผลิตด้านการเกษตร ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมวิชาการเกษตร จะเร่งดำเนินการขับเคลื่อนเทคโนโลยี genome editing หรือ gene editing (GEd) ภาคเกษตรสู่ความปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหาร และร่างหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมสำหรับประเทศไทย”
ปัจจุบันเทคโนโลยี GEd ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO), OECD มี 13 ประเทศประกาศสนับสนุนในที่ประชุมองค์การการค้าโลก (WTO) การใช้ประโยชน์เมล็ดพันธุ์ร่วมกันทั้งเชิงการค้าและการบริโภค โดยกว่า 40 ประเทศทั่วโลก อาทิ แคนาดา อเมริกา บราซิล อาร์เจนตินา ชิลี ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ สวิสเซอร์แลน ฟิลิปปินส์ เคนยา รัสเซีย และออสเตรเลีย ประกาศใช้นโยบาย No foreign DNA = not GMOs โดยถือว่าพืช GEd มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับพืชปกติทั่วไป
“กรมวิชาการเกษตรได้รับหนังสือจากนายวรรณพ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ประธานคณะกรรมการเทคนิคด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ เรื่องการจัดทำ “แนวทางการพิจารณาเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (genome editing)” เพื่อเป็นเกณฑ์ด้านเทคนิควิชาการสำหรับพิจารณาสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาโดยเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมที่ไม่เข้าข่ายสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม
ซึ่งถือเป็นข่าวดีในรอบ 30 ปี ที่ประเทศไทยจะสามารถใช้เทคโนโลยี GEd ที่ไม่มียีนถ่ายฝากจากสิ่งมีชีวิตอื่น และแก้ไขพันธุกรรมที่มีความจำเพาะและแม่นยำ ทำได้ง่าย ใช้เวลาสั้น มีต้นทุนต่ำ ไม่ต่างจากการกลายพันธุ์ ที่สำคัญไม่ใช่ GMOs และเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง”