'สมโภชน์' พร้อมชน 'เกรียงไกร' ท้าชิงประธาน ส.อ.ท.คนใหม่

การเลือกตั้งกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) วาระปี 2567-2569 กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 มี.ค.2567 โดยกรรมการ ส.อ.ท.ที่ได้รับการเลือกตั้งดังกล่าว รวมกับกรรมการที่ได้รับการเลือกจากกลุ่มอุตสาหกรรม 46 กลุ่ม และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด 76 จังหวัด จะมาทำหน้าที่ลงคะแนนเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.วาระปี 2567-2569 อีกครั้ง

ปัจจุบันนายเกรียงไกร เธียรนุกูล เป็นประธาน ส.อ.ท.วาระ 2565-2567 ดำรงตำแหน่งในวาระที่ 1 โดยในภาวะปกติจะมีธรรมเนียมให้ประธาน ส.อ.ท.ได้ดำรงตำแหน่ง 2 วาระ รวม 4 ปี แต่ในช่วงที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติและมีการยกเว้นธรรมเนียมดังกล่าว เช่น ช่วงที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ขึ้นมาเป็นประธาน ส.อ.ท.สมัยที่ 1 ในปี 2557

การเลือกตั้งครั้งนี้นายเกรียงไกร ยังคงเสนอตัวเป็นประธาน ส.อ.ท.อีก 1 สมัย ตามธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ได้มีการเสนอตัวจากสมาชิกอีก 1 กลุ่ม คือ นายสมโภชน์ อาหุนัย รองประธาน ส.อ.ท.และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) และเตรียมที่จะเปิดตัวในวันที่ 29 ก.พ.2567

นายจำรัส สว่างสมุทร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ระบุในหนังสือเชิญสื่อมวลชนว่า "นายสมโภชน์ อาหุนัย ในฐานะสมาชิกและรองประธาน ส.อ.ท.ในชุดปัจจุบัน โดยบริหารงานสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Institiute) ได้มีวิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยนแปลง ส.อ.ท.พร้อมสนับสนุนให้ประเทศ อุตสาหกรรมต่างๆ และสมาชิกได้ประโยชน์ จึงเสนอตนเองเป็นอีกทางเลือกในการสรรหาประธาน ส.อ.ท.วาระปี 2567-2569"

นายสมโภชน์ เคยแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมในงาน AGENDA : EXCLUSIVE DINNER TALK หัวข้อ “THAILAND NEW ERA” จัดโดย “ฐานเศรษฐกิจ” ในโอกาสครบรอบ 44 ปี ว่า ไทยภูมิใจต่อการเติบโตของเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมา แต่ไปต่อไม่ได้เพราะเป็นประเทศที่รับจ้างผลิต (OEM) ที่ได้ผลตอบแทนในการผลิตต่ำทำให้รากหญ้าของไทยไม่สามารถได้รับฝนตกที่ทั่วฟ้า

ฉะนั้น ถ้าจะแก้ปัญหาได้ต้องเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้ให้ได้ เช่น การที่ไทยเป็นดีทรอยด์ออฟเอเชีย ส่งออกรถยนต์มูลค่าเป็นล้านล้านบาท แต่เชื่อไหมว่ารายได้ค่าแรงต่อคันจากการประกอบเพียง 5,000 บาท จากราคารถ 1 ล้านบาทต่อคัน นี่คือสาเหตุที่ไทยเป็นประเทศ OEM ที่สมบูรณ์แบบที่มีรายได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

แหล่งข่าว ส.อ.ท.กล่าวว่า การเสนอตัวลงชิงประธาน ส.อ.ท.สร้างความประหลาดใจให้สมาชิกพอสมควร เพราะนายเกรียงไกร เพิ่งครบวาระที่ 1 และกำลังเสนอตัวเป็นประธาน ส.อ.ท.ในวาระที่ 2

"คุณสมโภชน์มีความสามารถและมีวิสัยทัศน์ทางอุตสาหกรรม ดูจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ถ้าคุณสมโภชน์รอให้ประธานคนปัจจุบันทำหน้าที่จนครบ 2 วาระ แล้วลงสมัครในอีก 2 ปี ข้างหน้าเชื่อว่าจะไม่มีใครลงแข่ง" แหล่งข่าว กล่าว

สำหรับผู้ที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็นประธาน ส.อ.ท.จะต้องได้รับคะแนนสนับสนุนจากกรรมการ ส.อ.ท.ข้างมาก ซึ่งกรรมการ ส.อ.ท.มาจากกรรมการจากการเลือกตั้ง กรรมการจากกลุ่มอุตสาหกรรม และกรรมการจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัด

ทั้งนี้ กรรมการจากการเลือกตั้งเป็นเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกตั้งจากสมาชิกทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ที่ดูแลสายงานส่งเสริมและสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดจะได้เปรียบที่เข้าถึงคะแนนเสียงจากต่างจังหวัดที่มีมากกว่าคะแนนเสียงในกรุงเทพฯ โดยในปัจจุบันนายเกรียงไกร เป็นผู้รับผิดชอบสายงานนี้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ประธาน ส.อ.ท.จะต้องได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีบริษัทลูกหรือบริษัทย่อยกระจายในต่างจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีคะแนนเสียงของตัวเองในการลงคะแนนเลือกกรรมการ ส.อ.ท.