"ITD" ดิ้นหาสภาพคล่องเร่งเจรจาแบงก์ เคลียร์หนี้ - จ่ายตรง "ซับคอนแทรค"
"ITD" วิ่งแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องหลังมีปัญหาจ่ายเงินให้ซับคอนแทรกล่าช้าในโครงการขนาดใหญ่ในอีอีซี หลังบริษัทขาดทุนหนักในหลายโครงการที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เผยขอธนาคารเข้ามาช่วยเป็นรายโครงการ ล่าสุดมีธนาคารแห่งเดียวที่ช่วยเหลือโดยจ่ายเงินซับคอนแทรคโดยตรง
KEY
POINTS
- "ITD" วิ่งแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องหลังมีปัญหาจ่ายเงินให้ซับคอนแทรกล่าช้าในโครงการอีอีซี
- เจรจาธนาคารเข้ามาช่วยเป็นรายโครงการ ล่าสุดมีธนาคารแห่งเดียวที่ช่วยเหลือโดยจ่ายเงินซับคอนแทรคโดยตรง
- จากธนาคาร 5 แห่งที่นายกฯให้เข้ามาช่วยเหลือ ITD ล่าสุดเหลือรายเดียวที่ช่วยเหลือเนื่องจากเป็นผู้ปล่อยกู้ในหลายโครงการ
- ส่องงบฯย้อนหลัง 5 ปีพบขาดทุนหนัก 4 ปี ส่วนปี 66 9 เดือนแรกกำไร แต่งบฯเต็มปียังไม่ส่งงบฯจน ตลท.ขึ้น SP
จากกรณีผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่บางรายประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนักล่าสุดมีปัญหาจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาช่วง (ซับคอนแทรค) ล่าช้าทำให้กระทบกับการจ่ายเงินเดือน ค่าแรงให้กับพนักงาน และคนงานก่อสร้างในพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งต่อมาได้รับการยืนยันว่า ผู้รับเหมารายดังกล่าวคือบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ “ITD” นั้น
แหล่งข่าวจาก ITD เปิดเผยว่าบริษัทประสบปัญหาในเรื่องสภาพคล่องมาระยะหนึ่งเนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีการไปลงทุนในต่างประเทศหลายโครงการและประสบภาวะขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาเรื่องของรายจ่ายดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงจนทำให้มีปัญหาการขาดสภาพคล่องและกระทบกับการจ่ายเงินต่อไปยังซับคอนแทรคที่บริษัทว่าจ้างเข้ามาให้ก่อสร้างโครงการต่างๆ
อย่างไรก็ตามในขณะนี้บริษัทเองอยู่ระหว่างหารือกับสถาบันการเงินเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ เนื่องจากในระยะสั้นต้องหาทางที่จะเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทซึ่งการเจรจาอาจต้องให้ธนาคารเข้ามาช่วยพยุงกิจการ หรืออาจให้เข้ามาช่วยถือหุ้นในบางโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ แล้วเติมทุนเข้ามาเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัท
เพื่อให้ในระยะสั้นสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในส่วนนี้ได้จากนั้นก็ค่อยปรับโครงสร้างหนี้ ให้สอดคล้องกับรายได้ของบริษัทที่จะเข้ามาในอนาคตซึ่งคาดว่าการเจรจากับสถาบันการเงินจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.นี้ซึ่งคาดว่าหากสามารถเจรจากับธนาคารได้ก็น่าจะหาทางออกที่ดีในเรื่องนี้ได้
นายกฯขอแบงก์ช่วยอุ้ม ITD
ทั้งนี้ที่ผ่านมาสถานะการเงินของบริษัทที่ประสบปัญหานั้นเป็นที่รับทราบมาระยะหนึ่งแล้วโดยเมื่อหลายเดือนก่อนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังได้ขอให้สถาบันการเงิน 5 รายเข้ามาช่วยเหลือพยุงฐานะการเงินของบริษัทให้สามารถผ่านวิกฤติไปได้
อย่างไรก็ตามล่าสุดพบว่ามีเพียงสถาบันการเงินแห่งเดียวเท่านั้นที่เข้ามาช่วยเหลือ ITD โดยธนาคารแห่งนี้เข้ามาให้ความช่วยเหลือเนื่องจากมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของ ITD เนื่องจากมีการปล่อยกู้ไปให้ดำเนินโครงการก่อสร้างหลายโครงการ
แบงก์จ่ายเงินตรงซับคอนแทรคแก้ปัญหาก่อสร้างช้า
โดยวิธีการที่สถาบันการเงินแห่งนี้เข้ามาช่วยเหลือคือการเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องให้ ITD แต่เป็นการจ่ายเงินตรงไปยังซับคอนแทรคเพื่อให้เงินจ่ายต่อไปยังพนักงานและคนงานในโครงการเพื่อให้โครงการก่อสร้างสามารถดำเนินการได้ และช่วยให้ ITD สามารถได้รับเงินค่าก่อสร้างตามงวดงานที่กำหนดไว้ได้
งบย้อนหลังสะท้อนปัญหาการเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหากย้อนดูงบการเงินของ ITD ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าบริษัทขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง ยกเว้นช่วง 9 เดือนปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิราว 379 ล้านบาท แต่ถ้าดูไส้ในของงบการเงินในงวดนี้จะพบว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขายสินทรัพย์ออกไปจึงทำให้งบดูดีมีกำไร ขณะที่งบปีอื่นๆ ขาดทุนสุทธิทุกปีโดยเฉพาะในปี 2565 ขยายทุนสุทธิกว่า4,759 ล้านบาท
สำหรับงบการเงินล่าสุดซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.66 ITD ยังไม่ส่งงบฯให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.)ทำให้ตอนนี้หุ้น ITD ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP หยุดการซื้อขายโดยราคาหุ้นก่อนถูก SP อยู่ที่ราคา 0.85 สตางค์ต่อหุ้น
ITD คาดส่งงบฯได้ภายในเดือน มี.ค.
นายวรวุฒิ หิรัญยไพศาลสกุล เลขานุการบริษัท บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า บริษัทฯ ขอชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ถือหุ้น และนักลงทุน ว่าบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องนำส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2566 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้
เนื่องจากปัจจุบันข้อมูลบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินงานของบริษัทฯ และผู้สอบบัญชีต้องใช้ระยะเวลาอีกช่วงหนึ่งในการตรวจสอบเพื่อให้งบการเงินมีความถูกต้องครบถ้วนและเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนแจ้งเลื่อนส่งงบการเงินประจำปีล่าช้า และคาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวภายใน 29 มี.ค.2567
สำหรับงบการเงินของ ITD ย้อนหลัง 5 ปีมีดังนี้
- ปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) กำไรสุทธิ 379 ล้านบาท
- ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 4,759 ล้านบาท
- ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 155 ล้านบาท
- ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,104 ล้านบาท
- ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 37.34 ล้านบาท
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าถึงแม้งบปี 2566 ที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 กำไรสุทธิ 379 ล้านบาท แต่ล่าสุด ITD ขอเลื่อนส่งงบการเงินประจำปี 2566 เนื่องจากปัจจุบันข้อมูลบางส่วนอยู่ระหว่างการดำเนินงานของบริษัทและผู้สอบบัญชีต้องใช้ระยะเวลาอีกช่วงหนึ่งในการตรวจสอบเพื่อให้งบการเงินถูกต้องครบถ้วนและเชื่อถือได้ ยืนยันส่งได้ภายใน 29 มี.ค. 67
เปิดงานคู่สัญญารัฐ 9 โครงการ
รวมทั้งเมื่อตรวจสอบผลดำเนินงานในรอบ 2 ปี ที่ผ่านมา (2565-2566 ) ซึ่ง ITD เป็นคู่สัญญางานก่อสร้างหลายโครงการของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เข้าลงนามในสัญญาการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 9 โครงการ วงเงินรวมกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท แบ่งได้ ดังนี้
ปี 2565 รวม 8 โครงการ
1.สัญญาก่อสร้างกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในนามกิจการร่วมค้า ไอทีดี-เนาวรัตน์ เพื่อดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัยงาว วงเงิน 26,560 ล้านบาท
2.สัญญาก่อสร้างทางยกระดับกับสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้วช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว ตอน 7 วงเงิน 1,868 ล้านบาท
3.สัญญาก่อสร้างกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) จำนวน 3 สัญญา ประกอบด้วย
สัญญาที่ 3 ช่วงผ่านฟ้า-สะพานพุทธ ในนามกิจการร่วมค้า ไอทีดี-เอ็นดับเบิ้ลยูอาร์ เอ็มอาร์ที วงเงิน 15,109 ล้านบาท
สัญญาที่ 5 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่ง และสถานียกระดับ ช่วงดาวคะนอง - ครุใน อาคารจอดรถไฟฟ้า (Stabling Yard) และอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) วงเงิน 13,094 ล้านบาท
สัญญาที่6 งานระบบรางช่วงเตาปูน-ครุใน วงเงิน 3,589 ล้านบาท
4.สัญญาก่อสร้างกับกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 2 ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทางขึ้น – ลง วงเงิน 1,059 ล้านบาท
5.สัญญาก่อสร้างกับกรมราชทัณฑ์ เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการอาคารโรงพยาบาลราชทัณฑ์แห่งที่ 2 พร้อมสิ่งประกอบ 1 แห่ง วงเงิน 1,725 ล้านบาท
6.สัญญาก่อสร้างกับมูลนิธิรามาธิบดี เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์รามาธิบดีศรีอยุธยา วงเงิน 1,520 ล้านบาท
7.สัญญาก่อสร้างกับ บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เพื่อดำเนินการงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โครงการสมุทรปราการ 4.0 วงเงิน 1,390 ล้านบาท เช่น งานก่อสร้างถนนคอนกรีต , งานก่อสร้างสะพานคอนกรีต
8.สัญญาก่อสร้างกับการประปานครหลวง (กปน.) เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำ มหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง ในนามกิจการค้าร่วมไอทีเอ (ITA Consortium) วงเงิน 6,390 ล้านบาท
ปี 2566 รวม 1 โครงการ
1.สัญญาก่อสร้างกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 3-1 งานโยธา สำหรับช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ในนามกิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10 วงเงิน 9,348 ล้านบาท