เทย์เลอร์ สวิฟต์ บูสต์ เศรษฐกิจสิงคโปร์ จบคอนเสิร์ตปรับเป้าจีดีพีปี 67 โต 2.4%
หลังจบคอนเสิร์ต "เทย์เลอร์ สวิฟต์" ในสิงคโปร์ทั้งหมด 6 รอบ กระตุ้นเศรษฐกิจสิงคโปร์ในปี 2567 จะเติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ พร้อมแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อลดลง กลายเป็นแรงหนุนปรับเป้าจีดีพีปีนี้ โต 2.4%
KEY
POINTS
- จบคอนเสิร์ต "เทย์เลอร์ สวิฟต์" 6 รอบ กระตุ้นเศรษฐกิจสิงคโปร์ในปี 2567
- คอนเสิร์ตหนุนเม็ดเงินสะพัด 300 - 400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็น 0.2% ต่อ GDP ไตรมาสแรก ปี 2567
- ทำให้เศรษฐกิจสิงคโปร์โตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จน MAS ต้องปรับเป้าจีดีพีทั้งปี โต 2.4%
- พร้อมคาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อลดลง อยู่ที่ 3.1% ในปีนี้
หลังจบคอนเสิร์ต "เทย์เลอร์ สวิฟต์" ในสิงคโปร์ทั้งหมด 6 รอบ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปี 2567 จะเติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ในขณะที่แนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อได้รับการปรับลดลง ตามการสำรวจของการเงินการธนาคารแห่งสิงคโปร์ (MAS) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจที่ 2.4% ในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิมที่ 2.3% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3.1% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 3.4%
รวมทั้งภาคการผลิตซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจสิงคโปร์ ซึ่งคิดเป็นกว่า 20% ของ GDP ของประเทศ คาดว่าจะเติบโตที่ 4% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 2.3%
ในขณะที่การคาดการณ์การสำหรับภาคส่วนต่างๆ เช่น การผลิต การเงินและประกันภัย และการก่อสร้าง ตลอดจนภาคการค้าส่งและค้าปลีก รวมถึงภาคที่พักและบริการอาหาร อาจปรับตัวลดลงเล็กน้อย
’Swiftonomics‘ ระตุ้น GDP ไตรมาสที่ 1
คอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ต่อเศรษฐกิจไตรมาส 1 ทำผลงานได้ดีไม่น้อย ทำให้มีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ จะเติบโตที่ 2.6% เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์
รายงานจากบลูมเบิร์กเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ระบุว่า นักเศรษฐกิจได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสแรก หลังจากคอนเสิร์ต Eras Tour ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์ พร้อมระบุว่าคอนเสิร์ตดังกล่าวจะสร้างมูลค่าเพิ่มประมาณ 300 - 400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 0.2% ต่อ GDP ไตรมาสแรก
ฮัน เต็ง ชัว (Han Teng Chua)นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารดีบีเอส DBS บอกว่า การจัด คอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์ ในสิงคโปร์ที่จัด ในประเทศตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 9 มีนาคม ทั้งหมด 6 รอบนั้น ช่วยหนุนเศรษฐกิจสิงคโปร์ในหลายด้านทั้งการท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม และกิจกรรมต่างๆ พร้อมระบุอีกว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสิงคโปร์ "น่าจะขยายตัว 2.9%" ในไตรมาสแรก
ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อ
แม้ว่าการสำรวจของ MAS จะรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจาก 3.4% เป็น 3.1% สำหรับปี 2567 แต่ประมาณการสำหรับ "อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของ MAS" ซึ่งไม่รวมราคาที่พักอาศัยและค่าขนส่งส่วนบุคคล ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากการสํารวจครั้งก่อนที่ 3% และคาดการณ์ว่าทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของ MAS จะอยู่ที่ 2% ในปี 2568
ทิศทางนโยบายการเงิน
ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน นักเศรษฐศาสตร์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสิงคโปร์ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนเมษายน 2567
หลังจากที่เศรษฐกิจสิงคโปร์คาดว่าจะเติบโต 2.4% ในปี 2567 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 3.1% ในปี 2567 ซึ่งแม้จะสูงกว่าเป้าหมายของ MAS ที่ 2% แต่ก็เริ่มมีแนวโน้มลดลง
ด้านชีวาน ทันดอน นักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ มองว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ยังคงฟื้นตัวช้าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตช้า ทำให้การส่งออกของสิงคโปร์ลดลง แต่เศรษฐกิจสิงคโปร์จะเติบโตคงที่มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
อ้างอิง CNBC