พาณิชย์เผย ยอดขายสินค้าอาหารไทย ในงาน Foodex Japan กว่า 2,500 ล้านบาท
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศนำผู้ประกอบการไทยจำนวน 50 รายเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Foodex Japan 2024 ระหว่างวันที่ 5-8 มี.ค.67 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผลตอบรับจากผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นท่วมท้น คาดว่าสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 2,500 ล้านบาท
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ตั้งเป้าการส่งออกปี 2567 ให้ขยายตัวไว้ที่ 1.99% และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ให้นโยบายในการให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาดควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนซอฟต์เพาเวอร์ไทยเพื่อให้เกิดการสร้างรายได้และขยายลู่ทางการส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งมูลค่าการส่งออกในเดือนม.ค. 2564 ที่ผ่านมานั้นมีทิศทางที่ดี โดยมีการขยายตัวถึง 10%
ทั้งนี้เพื่อให้การส่งออกของประเทศไทยในปีนี้บรรลุตามเป้าที่ได้ตั้งไว้ จึงได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 10 ประเทศเป้าหมายรวมทั้งประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยกลุ่มสินค้าอาหารไทยก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สำคัญของไทย ที่จะสามารถนำอัตลักษณ์ความเป็นไทยมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าการส่งออกได้อย่างมหาศาลในตลาดโลก รวมทั้งตลาดส่งออกอันดับสามของไทยอย่างประเทศญี่ปุ่นได้
นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ทูตพาณิชย์ประจำกรุงโตเกียว กล่าวว่า ตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าอาหารไทยในงานร่วมงานแสดงสินค้า Foodex Japan 2024 ครั้งนี้ที่สูงถึง 2,458 ล้านบาท เป็นการสั่งซื้อที่มีมูลค่าสูงกว่าปีที่แล้วซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 590 ล้านบาทถึงมากกว่า 4 เท่าตัว ตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของประเทศญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี จะด้วยค่าเงินเยนต่อเงินดอลลาร์ ที่เริ่มปรับตัวแข็งขึ้น และผลพวงจากนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดรายจ่ายให้ประชาชนภายในประเทศ ล้วนส่งผลให้โอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดญี่ปุ่นในปีนี้นั้นมีอนาคตที่ค่อนข้างสดใส
นอกจากสินค้าอาหารแล้ว ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานก็เพิ่งนำคณะผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นไปสั่งซื้อผลไม้ไทย ประกอบด้วยกล้วยหอมจำนวน 5,000 ตัน และมังคุดอีก 4,000 ตัน ซึ่งจะเริ่มทยอยเข้ามาขายในญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป โดยหลังจากนี้ ก็จะมุ่งนำสินค้า OTOP ที่มีอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยมาเปิดตลาดในกรุงโตเกียวให้ได้ต่อไป ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงอีกหนึ่ง Soft Power ของไทยให้สามารถแปรเปลี่ยนเป็นรายได้กลับไปสู่ท้องถิ่นตามนโยบายของรัฐบาล และด้วยแผนงานตลอดทั้งปีร่วมกันระหว่างสามสำนักงานในประเทศญี่ปุ่น ส่วนตัวก็มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถดันการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดญี่ปุ่นให้ขยายตัว 1% ได้ตามเป้าอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจส่งออกสินค้าไปยังตลาดญี่ปุ่น สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกได้ที่เวปไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ www.ditp.go.th หรือโทรสอบถามทางสายด่วน 1169