10 อันดับร้องเรียนบริการขนส่ง 'แท็กซี่' ครองแชมป์หมื่นเรื่อง
เปิด 10 อันดับข้อร้องเรียนบริการขนส่งสาธารณะระหว่างเดือน ต.ค. 2566 - ก.พ. 2567 พบ “แท็กซี่” ครองแชมป์ผู้โดยสารแจ้งปรับปรุงบริการสูงสุดกว่า 1 หมื่นเรื่อง ประเด็น “ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร” พุ่งอันดับ 1 รวม 2,291 ครั้ง
กระทรวงคมนาคมภายใต้การกำกับดูแล “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการฯ ขณะนี้มีนโยบายเร่งแก้ไขการให้บริการรถแท็กซี่ให้ประชาชนสามารถใช้บริการที่ดี สะดวก ปลอดภัย และมีราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งหาสาเหตุ ปัญหารถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร โดยมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก แก้ไขปัญหาดังกล่าว
พร้อมทั้งร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ไปดำเนินการศึกษาวิจัยแนวทางการพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถแท็กซี่ทั้งระบบ รวมถึงการวิจัยในเรื่องอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม สะท้อนต่ออัตราค่าครองชีพในปัจจุบัน และไม่เป็นการรบกวนต่อค่าครองชีพของประชาชน
ขณะที่ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก เกี่ยวกับการรับ เรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร.1584 พบว่าปีงบประมาณ 2567 ระหว่างเดือน ต.ค. 2566 - ก.พ. 2567 มีข้อร้องเรียนจากผู้โดยสารเฉพาะการใช้บริการรถแท็กซี่มีข้อร้องเรียนสูงสุดรวม 10,687 ครั้ง
จำแนกตามข้อหาร้องเรียน 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
- ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร 2,291 ครั้ง
- แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 1,872 ครั้ง
- ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว 1,285 ครั้ง
- ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร 1,054 ครั้ง
- ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน 564 ครั้ง
- เรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนด 503 ครั้ง
- พาผู้โดยสารไปเส้นทางที่อ้อมเกินควร 450 ครั้ง
- มาตรค่าโดยสารผิดปกติ 438 ครั้ง
- แสดงแผ่นป้ายทะเบียนไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง 403 ครั้ง
- จอดรถขวางทางจราจร, ขวางป้ายหยุดรถ 335 ครั้ง
ขณะที่ บทลงโทษของแท็กซี่ที่กระทำผิด ทางกรมการขนส่งทางบกเผยข้อมูลว่า ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 การปฏิเสธไม่รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 57 จัตวา ระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และเข้ารับอบรมเสริมความรู้และปลูกจิตสำนึกการให้บริการที่ดีตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง หากมีการกระทำความผิดซ้ำจะพักใช้ใบอนุญาตขับรถตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 6 เดือน
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด และได้รับส่วนแบ่งตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนรางวัล เมื่อมีการตรวจสอบและดำเนินการเปรียบเทียบปรับหรือคดีถึงที่สุดแล้ว ส่วนผู้ที่แจ้งเบาะแสได้ส่วนแบ่งตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนรางวัล หลังจากหักเป็นเงินนำส่งรายได้แผ่นดินแล้ว