ปฏิรูปการศึกษาไทย รับกระแสพัฒนาไฮเทค

ชัดเจนแล้วว่า สัตยา นาเดลลา ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอไมโครซอฟท์จะมาร่วมงาน 

Microsoft Build AI Day Thailand ในวันที่ 1 พ.ค. จากกำหนดเดิมจะมาในวันที่ 21 มี.ค. แต่ต้องเลื่อนออกไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนในแวดวงไอทีเพราะจะได้มีโอกาสฟังซีอีโอนาเดลลาแสดงปาฐกถาสดๆ บนเวที คนระดับนี้รับรองว่าต้องมีไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ การมาเยือนไทยของนาเดลลาจึงถือเป็นข่าวดีในแง่ของการลงทุน แว่วๆ ว่าไมโครซอฟท์มีแผนลงทุนในประเทศไทยนับแสนล้านดอลลาร์ แต่อย่าเพิ่งประมาท เพราะเขาไม่ได้มาประเทศไทยประเทศเดียว ไปมาเลเซียและอินโดนีเซียด้วย 

เส้นทางการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของซีอีโอไมโครซอฟท์ บ่งบอกถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของเพื่อนบ้านอาเซียนที่ไปในแนวทางไม่แตกต่างกัน ยุคนี้ต้องยกให้เอไอ ส่วนอีกหนึ่งอุตสาหกรรมไฮเทคคืออีวี ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่การผลิตแบตเตอรี่ ในวันที่ 7 - 10 เม.ย.คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เตรียมนำคณะไปทำโรดโชว์การลงทุน ณ มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อดึงดูดให้ผู้ผลิต แบตเตอรี่ชั้นนำของโลกเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ในประเทศไทย ทั้งเพื่อจำหน่ายใน ประเทศและใช้ไทยเป็นฐานการส่งออก

อุตสาหกรรมไฮเทคหัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยี แท้จริงแล้วอยู่ที่ “คน” ลองหันไปดูเพื่อนบ้านที่พัฒนาแนวทางเดียวกับเราเขาพัฒนาคนไปมากน้อยแค่ไหนเพื่อรองรับอุตสาหกรรมก้าวหน้าอย่างเอไอ วันที่ 3 พ.ค. นี้นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เตรียมเปิดตัวคณะปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาเลเซีย ตามแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศรวมทั้งเอไอ อีกทั้งนักศึกษาจากทุกคณะจะมีโอกาสได้เรียนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่อย่างเอไอด้วย 

หันมามองประเทศไทยเมื่อเราตระหนักและมุ่งมั่นจะพัฒนาเศรษฐกิจไปในภาคส่วนไฮเทค ส่วนหนึ่งที่ต้องตั้งคำถาม คือการพัฒนากำลังคนให้มีองค์ความรู้ที่เหมาะสม เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมากสถาบันการศึกษาไทยผลิตคนทันยุคทันสมัยหรือไม่ หลักสูตรสี่ปีที่ใช้กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเผลอๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์ ในช่วงที่โมเมนตัมเอไอกำลังมารัฐบาลควรใช้จังหวะนี้ผลักดันเรื่องปฏิรูปการศึกษารองรับภาคไฮเทค ยิ่งมีเอไอมาเป็นตัวช่วยการพัฒนาอาจไม่ยากอย่างที่คิด น้ำขึ้นให้รีบตัก ไฮเทคต้องรีบทำ ถ้าอยากให้ไทยเป็นผู้นำอาเซียน