อากาศร้อน ทำราคาผักขยับขึ้นถ้วนหน้า เผย ผักชีพุ่งเฉลี่ยกก.ละ 142 บาท
กรมการค้าภายใน เผย อากาศร้อน ส่งผลผลิตเสียหาย ปริมาณออกสู่ตลาดน้อย ดันราคาผักปรับขึ้นหลายรายการ ลั่นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคห้ามขยับ หลังคลังไม่ต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตดีเซล เหตุมีสัดส่วนในต้นทุนผลิตน้อยมาก แต่คาดธุรกิจขนส่งสินค้า ได้รับผลกระทบก่อน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรว่า ขณะนี้าราคาสินค้ากลุ่มพืช-ผักที่ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อน ทำให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น เช่น คะน้า ผักชี ถั่วฟักยาว เป็นต้น ส่วนมะนาวราคายังทรงตัว ทั้งนี้ เป็นผลมาจากอากาศร้อน ทำให้ผลผลิตเสียหาย และช่วงการขนส่งก็อาจจะทำให้ผลผลิตเสียหายบ้าง มีผลต่อราคาและสินค้าออกสู่ตลาดน้อยลง ประกอบกับช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดยาว ทำให้แรงงงาน การขนส่งหยุดไปบ้าง ทำให้สินค้าผักถูกส่งเข้าตลาดกลางและถึงมือผู้บริโภคน้อยลง แต่เชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้จะดีขึ้น สินค้าจะเข้าสู่ตลาดมากขึ้น หากพื้นที่ไหนสินค้าขาดแคลน กรมการค้าภายในพร้อมเชื่อมโยงแหล่งผลิตไปสู่มือผู้บริโภค และจะติดตามการผลิตและราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด
สำหรับราคาพืช-ผักเฉลี่ยราคาทั่วประเทศปัจจุบัน พบว่า ผักคะน้า ราคาเฉลี่ย 42.30 บาทต่อกิโลกรัม ถั่วฝักยาว ราคาเฉลี่ย 68 บาทต่อกิโลกรัม กะหล่ำปลี ราคาเฉลี่ย 28.70 บาทต่อกิโลกรัม กวางตุ้ง ราคาเฉลี่ย 30.10 บาทต่อกิโลกรัม ผักบุ้งจีน ราคาเฉลี่ย 32.70 บาทต่อกิโลกรัม ต้นหอม ราคาเฉลี่ย 98.50 บาทต่อกิโลกรัม ผักชี ราคาเฉลี่ย 142 บาทต่อกิโลกรัม พริกขี้หนูจินดา ราคาเฉลี่ย 79 บาทต่อกิโลกรัม มะนาว เบอร์ 1-2 เฉลี่ยผลละ 5.12 บาท ขณะที่ราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ฟองละ 3.84 บาท หมูเนื้อแดง 129.56 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาส่วนใหญ่ปรับขึ้นจากเดิมก่อนหน้านี้
นายวัฒนศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังไม่ต่ออายุต่อลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้าปรับขึ้นราคาสินค้า นั้น ทางกรมจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และได้ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิต ยังคงตรึงราคาขายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาเดิมต่อไป เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งได้รับคำยืนยันจากผู้ผลิตยินดีจะให้ความร่วมมือเต็มที่
“น้ำมันดีเซล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของต้นทุนการขนส่ง หากราคาปรับขึ้น ก็จะมีผลให้ธุรกิจบริการขนส่งสินค้า หรือโลจิสติกส์ ได้รับผลกระทบก่อน แต่สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ยังไม่มีผลทำให้ราคาปรับขึ้น เพราะดีเซลมีสัดส่วนน้อยมากในต้นทุนการผลิต ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตสินค้าก็รับปากจะตรึงราคาขายเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้น จะทำให้เงินเฟ้อทั่วไปของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ไม่มากนัก โดยคาดการณ์ว่า หากดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 1 บาท จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียง 0.08% และหากปรับขึ้น 2 บาท เงินเฟ้อจะปรับขึ้น 0.15% ส่วนกรณีที่สนค.ได้ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ใหม่เป็น เพิ่มขึ้น 0.0-1.0% มีค่ากลาง 0.5% จากเดิมที่คาดติดลบ 0.3% ถึงบวก 1.7% ค่ากลาง 0.7% นั้น ยังไม่รวมผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาดีเซล