รู้จัก 2 ‘รัฐมนตรีคลังป้ายแดง’ ‘พิชัย’ – ‘เผ่าภูมิ’ เสริมทีมเศรษฐกิจรัฐบาล
รู้จัก 2 รัฐมนตรีคลังใหม่ป้ายแดง พิชัย ชุนหวชิระ และ เผ่าภูมิ โรจนสกุล หลังปรับ ครม.ครั้งล่าสุด รมว.คลังผ่านงานหลายด้านทั้งแวดวงเศรษฐกิจ และพลังงาน และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทย ส่วน รมช.คลัง เคยเป็นข้าราชการในกระทรวง ก่อนลาออกลุยงานการเมืองผลักดันนโยบายสำคัญ
การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 2 เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา
กระทรวงหนึ่งที่ได้รับการจับตาคือ "กระทรวงการคลัง" กระทรวงเศรษฐกิจสำคัญเนื่องมีการปรับเปลี่ยนโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ลุกออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ โดยให้พิชัย ชุณหวชิร มานั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขณะที่อีกตำแหน่งคือให้เผ่าภูมิ โรจนสกุล ขยับจากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทำให้กระทรวงนี้มีรัฐมนตรีถึง 4 คน เป็นรัฐมนตรีว่าการ 1 คน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังอีก 3 คน
สำหรับประวัติของรัฐมนตรีคลังคนใหม่ป้ายแดง 2 คนมีดังนี้
พิชัย ชุณหวชิร ปัจจุบันอายุ 75 ปี เกิดวันที่ 15 ก.พ.2492 ตำแหน่งล่าสุดก่อนที่จะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.คลัง คือที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และประธานกรรมการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเพิ่งลาออกเมื่อไม่นานมานี้
พิชัยมีชื่อเกี่ยวข้องกับทั้งแวดวงธุรกิจ และมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับฝ่ายการเมือง เขาเคยเป็นกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยโดยตำแหน่งนี้ได้รับการแต่งตั้งสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่งนายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ และที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ระหว่างปี 2544-2550 พิชัยเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและบัญชีองค์กร บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นยุคแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เป็นบริษัทมหาชน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต่อมาพิชัยขยับขึ้นมานั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) ของ ปตท. ก่อนที่จะมานั่งเป็นกรรมการในบอร์ดบางจากหลังจากที่เกษียณอายุแล้ว
ในทางการเมืองชื่อของพิชัยเคยปรากฏในฐานะพยานชี้แจงคดีข้อกล่าวหาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเป็นคนที่เสนอข้อมูลทางบัญชีเพื่อหักล้างตัวเลขความเสียหายของโครงการนี้
สำหรับประวัติการศึกษา พิชัยจบการศึกษาปริญญาตรี สาขาพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท บริหารธุรกิจจาก Indiana University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารการเงิน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม
จากอดีตข้าราชการสู่รมช.คลัง
ส่วนประวัติของเผ่าภูมิ โรจนสกุล ปัจจุบันอายุ 41 ปี เกิดวันที่ 22 ก.พ. 2526 อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง โดยเคยทำงานที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นระยะเวลาสั้นๆ โดยรับผิดชอบงานในสำนักงานโยบายระบบการเงิน และสถาบันการเงิน โดยหลังจากทำงานประมาณ 1 ปีเศษก็ลาออกจากราชการ
ต่อมามีผู้ชักชวนให้เข้ามาทำงานการเมืองในพรรคเพื่อไทย โดยเข้ามาเป็นทีมงานของภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ตั้งแต่สมัยเป็นเลขาธิการพรรค และในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนเกิดรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557
จากนั้นในปี พ.ศ. 2561 ได้รับเลือกให้เป็นรองเลขาธิการพรรค และดำรงตำแหน่งนี้ติดต่อกัน 4 สมัย (ก่อนจะขยับขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคในปี พ.ศ. 2566
ส่วนประวัติการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่สหรัฐ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทใบที่ 1 จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ บอสตัน, ปริญญาโทใบที่ 2 และปริญญาเอก ด้านจากคณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอิลลินอย ชิคาโก
ที่ผ่านมาเผ่าภูมิได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการอธิบาย และสื่อสารนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของพรรคเพื่อไทย เช่น โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท นโยบายเขตธุรกิจใหม่ (New Business Zone) หรือ “NBZ” และการเพิ่มรายได้ของเกษตรกร เป็นต้น
ทั้งนี้ต้องจับตาว่าการเสริมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล “เศรษฐา2” ที่มีรัฐมนตรีคลังถึง 4 คน จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ และมาตรการทางการคลังออกมาได้ถูกใจประชาชน และภาคธุรกิจได้สมกับที่สังคมตั้งความหวังไว้หรือไม่