‘เศรษฐา’ เรียก ‘ธงทอง‘ ถกคืบหน้า แก้อุปสรรคธุรกิจ เร่ง ‘NSW’ เริ่มใช้ ก.ย.นี้
"เศรษฐา" เรียก "ธงทอง" ถกคืบหน้า แก้กฎหมายอุปสรรคธุรกิจ สัปดาห์หน้าเตรียมเรียก 5 กระทรวงประชุม เร่ง "NSW" เสร็จไตรมาส4ปีนี้ ธงทอง มองเปลี่ยนตัวปานปรีย์ ไม่กระทบการทำงาน กพร.
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้ว่าไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับ ครม.และรอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ รมว.ต่างประเทศคนใหม่หลังจากที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามนายเศรษฐาใช้เวลาในวันนี้เรียกรัฐมนตรีใหม่ และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเข้ามาหารือในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับการทำงาน และการขับเคลื่อนนโยบาย โดยมีบุคคลที่เข้ามาพบนายกรัฐมนตรีเช่น นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทินรมว.สาธารณสุข
รวมทั้งนายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวก ในการประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น.นายธงทอง เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้าของการปรับปรุงกฎหมายและขั้นตอนที่จำเป็นเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าข้ามแดน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลของการนำเข้าและส่งออกสินค้าข้ามแดนหรือระบบ National Single Window (NSW) ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้สามารถใช้ได้ภายในวันที่ 1 ก.ย. และสามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจในการส่งออกและนำเข้าสินค้า
โดยในสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีจะเรียก คณะทำงานในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวก ในการประกอบธุรกิจ 5 หน่วยงาน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เข้าหารือเพื่อเร่งรัดการดำเนินการให้เกิดขึ้นจริง ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ
โดยภายใน 2 - 3 เดือนหลังจากนี้จะมีการวางระบบออนไลน์เพื่อให้การประสานงานข้ามกระทรวงเกิดความสะดวกมากขึ้น ซึ่งการทำงานบูรณาการของหลายหน่วยงานเพื่อที่จะมีหน้าต่างเดียวในการเข้ามาติดต่อให้เกิดความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้นายกฯ ได้สั่งการให้ระบบอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจเกิดขึ้นจริงภายใน 1 ก.ย. และเปิดระบบได้เต็มรูปแบบภายในวันที่ 1 ต.ค. 67
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้นายปานปรีย์ได้รับมอบหมายในการกำกับดูแลหน่วยงาน ก.พ.ร. เมื่อนายปานปรีย์ลาออกไปการทำงานของ ก.พ.ร.บจะได้รับผลกระทบหรือไม่ นายธงทองกล่าวว่าตนในฐานะกรรมการในคณะกรรมการ ก.พ.ร.และทำงานกับ ก.พ.ร.อยู่มองว่าจะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเราพร้อมที่จะทำงานกับผู้ที่รับผิดชอบทางนโยบาย ซึ่งก็ต้องรอว่านายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีท่านใดมากำกับดูแล ก.พ.ร.อีกที