'พลังงาน' สั่ง 'กฟผ.' สำรองเชื้อเพลิงกรณีฉุกเฉิน เหตุไฟไหม้ 'มาบตาพุด แทงค์'
กระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์ที่ มาบตาพุด จ.ระยอง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส ของมาบตาพุด แทงค์" หวั่นเชื้อเพลิงไม่เพียงพอในการผลิตไฟฟ้า
กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุต จังหวัดระยอง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการผลิตอะโรเมติก (กลุ่มเส้นใยประดิษฐ์) พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้เตรียมพร้อมรับมือ
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้รับแจ้งเหตุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ของ บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อเวลา 10.45 น. บริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงานได้ประสานกรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดระยองร่วมเฝ้าระวัง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้เตรียมพร้อมรับมืออย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามแผนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารประกอบต่างๆ เช่น การผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ สารตั้งต้นในการผลิตสีย้อม เป็นต้น
“หลังได้รับแจ้งเหตุ ปลัดกระทรวงพลังงานได้สั่งการให้ตั้ง War room ขึ้น โดยให้กรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดระยองประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เตรียมความพร้อมให้การทำงานของ LNG Terminal ในมาบตาพุดให้สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เตรียมเชื้อเพลิงสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถติดต่อศูนย์สื่อสารที่หมายเลข 038-911-995 จะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจงและให้ข้อมูล” นายวีรพัฒน์ กล่าว
รายงานสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้ภายในถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติก ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) ถนนไอ 8 ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ระดับ 2 แล้ว ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้บัญชาการร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และหน่วยงานราชการท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์ พร้อมอพยพประชาชนชุมชนหนองแฟบ,ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ ไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง
ล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเป็นพนักงานของมาบตาพุด แทงค์ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ใด้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
สำหรับสถานการณ์ ณ เวลา 15.30 น. ขณะนี้ได้มีการระดมรถดับเพลิงในบริเวณพื้นที่จังหวัดข้างเคียงเข้ามาช่วยสนับสนุนการควบคุมเพลิง รวมทั้งมีการปั้มน้ำจากทะเลขึ้นมาหล่อเย็น เพื่อลดอุณหภูมิของถังสารเคมีที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งยังเป็นการไหม้แค่ 1 ถังเท่านั้น