EXIM BANK ออก 'พันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์' 400 ล้าน ยอดจองซื้อสูงกว่า 7.75 เท่า
EXIM BANK ระดมทุนออกพันธบัตรสุกลเงินดอลลาร์ 400 ล้านดอลลาร์ อายุ 5 ปี ดองเบี้ย 5.3% รับยอดจองซื้อสูงกว่า 7.75 เท่า เล็งขยายสินเชื่อหนุนผู้ส่งออกและลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการเสนอขายพันธบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.354% ต่อปี มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนชั้นนำทั่วโลกทั้งจากภูมิภาคยุโรปและเอเชียอย่างท่วมท้น ด้วยยอดจองซื้อสูงกว่า 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสูงกว่า 7.75 เท่า
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ซึ่งเดินหน้าสู่บทบาท Green Development Bank ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและโลกโดยรวม
ทั้งนี้ การระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐของ EXIM BANK ในครั้งนี้นับเป็นการออกและเสนอขายพันธบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐครั้งแรกในปีนี้ของผู้ออกตราสารหนี้จากประเทศไทย และมียอดจองซื้อสูงสุดสำหรับการออกพันธบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ของสถาบันการเงินจากภูมิภาคเอเชียใต้และอาเซียนจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันคุณภาพชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 130 ราย ได้แก่ ธนาคารกลาง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund) บริษัทบริหารเงินลงทุน ธนาคาร และบริษัทประกัน
สำหรับพันธบัตรดังกล่าวจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Moody’s ที่ระดับ Baa1 และ Fitch ระดับ BBB+
โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตร ได้แก่ BNP Paribas, Mizuho Securities Asia Limited, Standard Chartered Bank (Singapore) Limited และ The Hongkong and Shanghai Banking Corporation Limited, Singapore Branch
“สำหรับเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรในครั้งนี้ EXIM BANK มีแผนจะนำไปใช้รองรับการขยายตัวของสินเชื่อเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศของผู้ประกอบการไทยทุกขนาดธุรกิจและทุกอุตสาหกรรม เติมเต็ม Supply Chain การส่งออกไทย"
รวมถึงการสนับสนุนการปรับตัวทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและรับมือความท้าทายของตลาดโลกได้ โดยเชื่อมโยงการพัฒนาธุรกิจกับการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน และแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดการค้าโลก