อคส.แจงทีโออาร์ประมูลข้าว 10 ปี เผยมีผู้สนใจมากกว่า 10 ราย

อคส.แจงทีโออาร์ประมูลข้าว 10 ปี เผยมีผู้สนใจมากกว่า 10 ราย

อคส.แจงเงื่อนไขประมูลข้าว 10 ปี ให้กับผู้ค้าข้าว  ระบุมีเอกชนสนใจรัปฟังมากกว่า 10 ราย เผย การประมูลครั้งนี้ไม่ราคากลางยึดราคาประมูลสูงสุด 17 มิ.ย.รู้ใครประมูลได้ ขณะที่นายกสมาคมโรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมลงดูข้าวในคลังสินค้าก่อนเคาะราคาร่วมวงประมูล

นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า  อคส.ได้เชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปครั้งที่ 1/2567 โดยระบายแบบเหมาคลังตามสภาพของข้าวที่เก็บรักษาที่มีอยู่จริง เข้ารับฟังคำชี้แจงในการประมูลข้าว เบื้องต้นมีผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 10 ราย และก่อนหน้ามีผู้สนใจโทรเข้ามาสอบถามการประมูลข้าวกว่า 10 ราย จึงมั่นใจว่าการประมูลข้าวของรัฐบาลครั้งนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลข้าวของรัฐแน่นอน

โดยอคส.จะเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติในวันที่ 10 มิ.ย.2567 และจะประกาศรายชื่อผู้เสนอซื้อที่ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 13 มิ.ย.2567 ก่อนจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อได้ในวันที่ 17 มิ.ย.2567 และจะเปิดซองเสนอราคาทันทีในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

“การประมูลนี้ไม่มีราคากลาง แต่จะดูราคาสูงสุดที่แต่ละรายจะเสนอราคาเข้ามา หากมีผู้เสนอราคาสูงสุดก็จะได้ข้าวของรัฐไป ซึ่งคณะทำงานจะพิจารณาและต่อรองราคากับผู้ชนะ ซึ่งก็จะมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการพิจารณาราคา ซึ่งตอนนี้พิจารณากันอยู่ และหากผู้ชนะทิ้งสัญญาก็จะนำผู้ที่ชนะลำดับถัดไปขึ้นมารับมอบสัญญา แต่รายที่ทิ้งสัญญาแรกไปจะต้องจ่ายส่วนต่างข้าวนั้นๆด้วย อาทิ มีเสนอราคาสูง 22 บาท รายที่ 2 เสนอ 20 บาท รายแรกทิ้งสัญญา รายที่ 2 ขึ้นมา รายแรกก็ต้องจ่ายส่วนต่าง 2 บาทที่หายไป”

ส่วนทีมีข่าวว่าทางคณะกรรมาธิการวุฒิสภา บางท่านจะขอให้มีการตรวจสอบข้าวสารสต๊อกนี้ใหม่อีกครั้งนี้ โดยคณะกรรมาธิการการชุดดังกล่าวคงต้องทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ โดย อคส.ไม่มีอำนาจตรงนี้ แต่เมื่อผลพิสูจน์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ออกมาชัดเจนแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งคณะกรรมาธิการวุฒิสภา มีหน้าที่นิติบัญญัติมากกว่ามาตรวจสอบและที่ผ่านมาก็ได้ตรวจสอบให้เห็นมาแล้ว

นายวิชัย ศรีนวกุล นายกสมาคมโรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ตนมาในนามสมาคมโรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อมาฟังคำชี้แจงระบายข้าว อคส. ตามที่เชิญ  ซึ่ง วันที่ 31 พ.ค. อคส. เปิดตรวจสินค้าในคลัง โดยตนจะให้ฝ่ายจัดซื้อของโรงงานเข้าไปดูและประเมินว่าควรจะซื้อหรือไม่ซื้อได้ระดับราคาที่เท่าใดแต่ในเบื้องต้นบริโภคได้ก็มีโอกาสที่จะมายื่นเสนอราคาก็จะไปดูสภาพสินค้าว่าเป็นอย่างไร 

โดยราคาจะเสนอมามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการแต่ละรายอีกที หากมีผู้สนใจมากราคาแต่ละรายที่นำเสนอจะแตกต่างกันไป หากใครให้ราคาสูงกว่านี้ก็ถือว่าชนะการประมูลไป

ส่วนข้าว10ปีกินได้ไมได้นั้น  เมื่อภาครัฐมีการพิสูจน์ออกมาแล้วไม่มีสารตกค้างใดๆก็มั่นใจว่าสามารถที่จะบริโภคได้ทั้งคนในประเทศและส่งออกไปตลาดต่างประเทศเพื่อการบริโภคได้อย่างแน่นอน ซึ่งเอกชนผู้ค้าข้าวที่ลงไปดูก่อนหน้านี้ ก็มีการยืนยันว่าสภาพข้าวสารยังมีอยู่และมีคุณภาพ แม้ว่าจะดูข้าวจะเหลืองหรือมีแมลงและซากอยู่บ้าง แต่เมื่อขายออกไปแล้ว ผู้ชนะประมูลจะต้องนำไปปรับปรุงคุณภาพก่อนออกจำหน่ายหรือส่งออกเป็นสำคัญ