อาเซียนถกสถานการณ์อาหารรับมือปัญหาความมั่นคงทางอาหาร

อาเซียนถกสถานการณ์อาหารรับมือปัญหาความมั่นคงทางอาหาร

กรมการค้าต่างประเทศเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 44 แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์สินค้าอาหารสำคัญ และหารือแนวทางเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียน

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้ส่งผู้แทนเดินทางไปเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 44 (The 44thASEAN Food Security Reserve Board (AFSRB) Meeting) ระหว่างวันที่ 5 – 6 มิ.ย. 2567 ณ เมืองวังเวียง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

โดยในปีนี้ประเทศสมาชิกอาเซียนได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับผลผลิต การบริโภค การค้า และปริมาณสำรองของอาหารสำคัญ 4 ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด น้ำตาล และถั่วเหลือง เพื่อประเมินสถานการณ์อาหารในภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2567 คาดการณ์ผลผลิตข้าวรวมของอาเซียนจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศผู้ผลิตข้าวหลัก เช่น เวียดนามและเมียนมา มีผลผลิตเพิ่มขึ้น

ขณะที่ไทยจะมีผลผลิตข้าวลดลงเล็กน้อยประมาณ  5 %  อันเนื่องมาจากปัญหาภัยแล้ง คาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลในอาเซียนลดลงเนื่องจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา และ ฟิลิปปินส์ มีผลผลิตลดลง

อย่างไรก็ดี ในภาพรวมอาเซียนยังคงมีผลผลิตข้าวและน้ำตาลเพียงพอต่อความต้องการบริโภคและส่งออกไปทั่วโลก ในขณะที่ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวโพดเนื่องจากมีผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคในภูมิภาค โดยคาดว่าในปี 2567 อาเซียนจะนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวโพดเพิ่มขึ้นประมาณ  5.91%  และ 0.97 % ตามลำดับ

อาเซียนถกสถานการณ์อาหารรับมือปัญหาความมั่นคงทางอาหาร

นอกจากนี้ ในปีนี้ที่ประชุม AFSRB ได้หารือเกี่ยวกับความท้าทายที่ประเทศสมาชิกฯ กำลังเผชิญในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้าอาหารหลักในหลายประเทศ ราคาปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้น ความผันผวนของต้นทุนในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการใช้มาตรการการค้า ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นคงทางอาหาร

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ เห็นควรให้มีการศึกษาวิเคราะห์บทบาทและความสำคัญของอาเซียนในระบบอาหารโลก เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค

โดยเห็นควรให้ขอความช่วยเหลือด้านเทคนิคและงบประมาณในการดำเนินการจากองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เช่น ASEAN Development Bank (ADB) และ the Economic Research Institute for ASEAN and East Asia (ERIA) เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแนวทางการแก้ปัญหาเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ Senior Officials Meeting of the ASEAN Ministers on Agriculture and Forestry (SOM-AMAF) ต่อไป

นายรณรงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (AFSRB) ได้จัดตั้งขึ้นภายใต้ความตกลงว่าด้วยการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (Agreement on the ASEAN Food Security Reserve) ที่ได้มีการลงนามเมื่อปี 2522 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงทางอาหารภายในภูมิภาค ซึ่งประเทศสมาชิกจะประชุมร่วมกันเป็นประจำทุกปี เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและประเมินสถานการณ์อาหารของภูมิภาคอาเซียนและของโลก

ตลอดจนติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การประชุม AFSRB เป็นกลไกความร่วมมือสำคัญของสมาชิกอาเซียนในการเตรียมพร้อมรับมือและติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางอาหาร เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหารในระดับภูมิภาค โดยในปี 2568 มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม AFSRB ครั้งที่ 45 ต่อไป