นบข.ไฟเขียว”ปุ๋ยคนละครึ่ง” ช่วยเกษตรกร ชงครม.ภายในเดือนมิ.ย.นี้

นบข.ไฟเขียว”ปุ๋ยคนละครึ่ง” ช่วยเกษตรกร ชงครม.ภายในเดือนมิ.ย.นี้

“ภูมิธรรม” เผย ที่ประชุม นบข.ไฟเขียวโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท  ลดต้นทุนค่าปุ๋ยให้เกษตรกร โดยรัฐจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ และเกษตรกรออกเองครึ่งหนึ่ง  เตรียมเสนอครม.เห็นชอบภายในเดือนนี้ 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ(นบข.) ครั้งที่ 2/2567 ว่า  สถานการณ์ราคาข้าวปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเราได้มีการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่ผ่านมาทุกปีรัฐบาลเสียเงินอุดหนุนเป็นจำนวนมาก จึงต้องหาวิธีการการผลิตที่ดีและลดต้นทุนการผลิต จึงมีการเสนอโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยรัฐบาลจะช่วยครึ่งหนึ่งและชาวนาจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ผ่านดำเนินการผ่านแอปพลิเคชั่นของ ธ.ก.ส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร)

โดยที่ประชุม นบข. วันนี้ได้มีมติเห็นชอบหลักการโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปัจจัยการผลิตลดต้นทุนการผลิตข้าวแก่เกษตรกร โดยจะสนับสนุนปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 67/68 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรเป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 29,994.3445 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กรมการข้าวนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วที่สุดภายในเดือนนี้

นบข.ไฟเขียว”ปุ๋ยคนละครึ่ง” ช่วยเกษตรกร ชงครม.ภายในเดือนมิ.ย.นี้

“ขอเชิญชวนผู้ประกอบกิจการผู้ค้าปุ๋ยทุกบริษัทมาเข้าร่วมในราคาเดียวกันหมด เพื่อแก้ปัญหาชาวนาซื้อปุ๋ยแพง ซึ่งปุ๋ยที่ดำเนินการตามสูตรที่ระบุ จะทำให้เพิ่มผลผลิตได้โดยรัฐไม่ต้องดูแลค่าใช้จ่าย ไร่ละ 1,000 ซึ่งต้องทำให้เร็วที่สุดและเพียงพอ เพื่อให้ทันฤดูกาลการผลิต และอาจมีคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลและตรวจสอบโครงการให้ชัดเจนโปร่งใสให้ประโยชน์สูงสุดเกิดกับชาวนา”นายภูมิธรรม กล่าว

โดยปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติปุ๋ย และชีวภัณฑ์ ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกรับการสนับสนุนปุ๋ยสำหรับนาข้าวที่ขึ้นทะเบียน เบื้องต้นจำนวน 13 รายการ ได้แก่ 1. ปุ๋ยสูตร 25-7-14  2. ปุ๋ยสูตร 20-8-20  3. ปุ๋ยสูตร 20-10-12 4. ปุ๋ยสูตร 30-3-3  5. ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0  6. ปุ๋ยสูตร 18-12-6 7. ปุ๋ยสูตร 16-8-8

 8. ปุ๋ยสูตร 16-12-8  9. ปุ๋ยสูตร 16-16-8 10. ปุ๋ยสูตร 16-20-0  11. ปุ๋ยสูตร 20-20-0 12. ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ และ13. ชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย  ทั้งนี้ที่ประชุมฯได้เสนอเพิ่มปุ๋ยอีก 3 สูตร ได้แก่ 1. ปุ๋ยสูตร 16-16-16  2. ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และ 3. ปุ๋ยสูตร 13-13-24

นอกจากนี้ที่ประชุมฯได้เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี67 เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับสถานการณ์ข้าวไทย ผลผลิตข้าว ปี 66/67 ผลผลิต 33.05 ล้านตัน ลดลง 0.58 ล้านตันข้าวเปลือก เป็นข้าวนาปี 26.83 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้น 0.12 ล้านตันข้าวเปลือก  ข้าวนาปรัง 6.22 ล้านตันข้าวเปลือก ลดลง 0.70 ล้านตันข้าวเปลือก โดยราคาข้าวไทย (ณ วันที่ 10 มิ.ย.67) ข้าวทุกชนิดราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ขณะนี้ข้าวเปลือกทุกชนิดราคาสูง เนื่องจากรัฐบาลเร่งรัดการส่งออกเพิ่มขึ้น และช่วง มี.ค.-เม.ย. อากาศร้อนจัดผลผลิตออกน้อย ขณะที่ความต้องการซื้อจากในประเทศและต่างประเทศมีต่อเนื่อง

โดยราคาข้าวเปลือกต่อตันความชื้น 15% เทียบปีก่อน (10 มิ.ย.66) ข้าวหอมมะลิ 15,000 – 16,500 บาท  ข้าวปทุมธานี 14,600 – 16,000 บาท ข้าวเจ้า 11,700 – 12,600 บาท  และข้าวเหนียว 13,800 – 14,600บาท และการส่งออกข้าวไทย (ม.ค.-เม.ย.67) ส่งออก 3.40 ล้านตัน(  ทั้งปีเป้าอยู่ที่  8.03 ล้านตัน