กรมการค้าภายใน จับตาสินค้าทุกกลุ่มหลังสหพันธ์ขนส่งปรับขึ้นค่าขนส่ง 9 %

กรมการค้าภายใน จับตาสินค้าทุกกลุ่มหลังสหพันธ์ขนส่งปรับขึ้นค่าขนส่ง 9 %

กรมการค้าภายใน ชี้ กลุ่มหลังสหพันธ์ขนส่งปรับขึ้นค่าขนส่ง 9 %  กระทบต้นทุนราคาสินค้าไม่เท่ากัน พร้อมจับตาสินค้าทุกกลุ่ม ย้ำทุกฝ่ายต้องอยู่ได้ ด้านราคาไก่ที่ปรับขึ้นขณะนี้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่ราคาผักลดลงหลาบรายการเช่นกัน

นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน  กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศขึ้นค่าขนส่งอีก 9%  จากการที่น้ำมันดีเซลปรับขึ้นทำต้นทุนสินค้าสูงผลกระทบต่อราคาสินค้า ว่า กรมจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ 18 หมวด  ซึ่งการปรับขึ้นค่าขนส่ง 9 % ส่งผลกระทบต่อต้นทุนราคาสินค้าแต่ละรายการไม่เท่ากัน โดยจะต้องมีการวิเคราะห์ผลกระทบด้านต้นทุนแต่ละรายการว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร ต้องดูแลทุกฝ่ายผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ ผู้บริโภคก็ต้องอยู่ได้  โดยกรมฯจะติดตามสถานการณ์สินค้าทุกกลุ่ม และขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาต่อไปทั้งนี้น้ำมันเป็นต้นทุนธุรกิจขนส่งสินค้า  40 %

ส่วนกรณีที่มาตการรตรึงราคาก๊าซหุงต้มจะสิ้นสุดสิ้นเดือนมิ.ย.2567 นั้น กรมจะมีการติดตามการจำหน่ายก๊าซหุงต้มทั้งในส่วนของปริมาณ และราคา รวมทั้งจัดสายตรวจติดตามราคาจำหน่ายอาหารจานด่วนในฟู้ดคอร์ทและศูนย์อาหารภายในห้างอย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขายแพงเกินสมควร อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประชาชนยังมีทางเลือกในการบริโภคอาหารจานด่วนราคาพิเศษเฉลี่ย 35-40 บาทต่อจาน  ภายในร้านอาหารธงฟ้าของกรมการค้าภายในซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ  จำนวน 5600 ร้าน และขณะนี้ ต้นทุนอื่น ๆ อย่างหมวดเนื้อสัตว์ เช่น หมู ราคาลดลง ไก่ทรงตัว ไข่ไก่ เริ่มลดลง ผักสดลดลง น้ำมันพืช ก็ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ไม่มีเหตุผลที่จะใช้ปรับขึ้นราคา

นายวัฒนศักดิ์ กล่าวว่า  สำหรับสถานการณ์ราคาเนื้อไก่ ตอนนี้ทรงตัวและเริ่มปรับลดลง หลังจากที่ผลผลิตเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น จากที่ช่วงก่อนหน้านี้ เจออากาศร้อนแล้ง ทำให้ไก่โตช้า ต้องใช้เวลาเลี้ยงนานขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น โดยขณะนี้ อากาศเย็นลง รอบการเลี้ยงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่กรมได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการในช่วงรอยต่อ ไม่ให้สินค้าในประเทศขาดแคลน โดยได้หารือกับผู้ผลิตและผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ ขอความร่วมมือให้กำหนดสัดส่วนการส่งออกกับขายในประเทศให้เหมาะสมตามปกติ เดิมเคยขายเท่าไร ส่งออกเท่าไร ก็ควรจะเป็นแบบนั้น หากพบผิดปกติ เช่น ส่งออกเพิ่มขึ้น หรือขายในประเทศลดลง ก็จะมีมาตรการเข้มออกมา ตั้งแต่กำหนดสัดส่วนการส่งออก ขออนุญาตส่งออก หรือห้ามส่งออก

ล่าสุดได้เพิ่มมาตรการบริหารสั่งให้ติดตามราคาจำหน่ายเนื้อไก่ในห้างค้าปลีก ค้าส่งให้อยู่ภายโครงสร้างราคา โดยกำหนดให้ห้างค้าปลีก ค้าส่ง แจ้งราคารับซื้อ และราคาขายเนื้อไก่มายังกรมการค้าภายในเป็นประจำทุกวัน โดยจะจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษออกสุ่มตรวจราคาเนื้อไก่ ในห้างหากพบว่ามีการจำหน่ายในราคาที่สูงเกินจริง หรือไม่เป็นไปตามราคาที่แจ้งห้างจะถูกดำเนินคดีตาม  พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542.ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนราคาผักสดได้ปรับลดลงต่อเนื่อง หลังเข้าสู่หน้าฝน อากาศเย็นลง โดยผักคะน้า กิโลกรัม (กก.) ละ 33.80 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 56 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 30.50 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 34.50 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 27.90 บาท ต้นหอม กก.ละ 110 บาท ผักชี กก.ละ 121.50 บาท พริกขี้หนูจินดา กก.ละ 81.30 บาท มะนาว เบอร์ 1-2 ลูกละ 3.58 บาท