ทอท.ชี้เรียกคืนพื้นที่เอกชนกระทบรายได้น้อย มั่นใจผู้โดยสารเพิ่มชดเชย
ทอท.ชี้เรียกคืนพื้นที่ “คิง เพาเวอร์” กระทบรายได้เพียงเดือนละ 90 ล้านบาท นับเป็น 1% ของรายได้ทั้งหมด มั่นใจผู้โดยสารฟื้นตัว จะชดเชยค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเพิ่มขึ้น แจงไม่ผิดสัญญาสัมปทาน เหตุมีเงื่อนไขเรียกคืนเพื่อใช้ประโยชน์สาธารณะได้
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติให้ ทอท.ขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นการดำเนินงานตามข้อแนะนำของ Skytrax เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาบริการแก่ผู้โดยสาร อำนวยความสะดวกในการใช้ท่าอากาศยานมากขึ้น
อย่างไรก็ดี พื้นที่ ทอท.จะนำมาพัฒนาบริการเหล่านี้ พบว่ามีพื้นที่บางส่วนที่ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ของ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด รวมทั้งพื้นที่ปฏิบัติงานบางส่วนของส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร และกรมสรรพากร ซึ่งการขอคืนพื้นที่ครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่กระทบต่อสัญญาสัมปทานบริหารพื้นที่ โดยเฉพาะสัญญากับคิง เพาเวอร์ มีเงื่อนไขระบุไว้แล้วว่า ทอท.สามารถขอคืนพื้นที่เพื่อนำไปพัฒนาประโยชน์สาธารณะได้ ไม่ผิดเงื่อนไขสัญญา และไม่ต้องเยียวยาเอกชน
“ในสัญญาคิง เพาเวอร์ ทอท.ได้ระบุไว้แล้วว่าสามารถเรียกคืนพื้นที่ได้ หากมีความจำเป็นในการพัฒนาบริการสาธารณะของสนามบิน ดังนั้นจึงไม่ต้องเยียวยาอะไรเอกชน และ ทอท.ก็ยังไม่มีแผนจะขอคืนพื้นที่เพิ่มเติมหลังจากนี้”
ทั้งนี้การลดขนาดพื้นที่เชิงพาณิชย์นี้ ทำให้รายได้ของ ทอท.ลดลง แต่ประเมินว่าจะปรับลดลงในจำนวนไม่มาก ประมาณ 90 ล้านบาทต่อเดือน คิดเป็น 1% ของรายได้ทั้งหมด และปรับลดในช่วงปี 2567 – 2568 โดยหากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น รายได้ส่วนนี้ก็จะถูกชดเชยกลับเป็นปกติ เนื่องจาก ทอท.ได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้โดยสาร
รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย.2567 มีมติอนุมัติให้ ทอท.ขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต ตามข้อแนะนำของ Skytrax เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆ เพิ่มเติม สำหรับให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารมีที่พักคอยมากขึ้น
อย่างไรก็ดี การขอคืนพื้นที่ครั้งนี้ พื้นที่บางส่วนจะเป็นพื้นที่ ที่มีการประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ของผู้ประกอบการ ได้แก่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด รวมทั้งพื้นที่ปฏิบัติงานบางส่วนของส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร และกรมสรรพากร โดย ทอท.จะดำเนินการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2567 เป็นต้นไป ประกอบด้วย
- ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน (Concourse) และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวนรวมประมาณ 1,097.14 ตารางเมตร
- ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวนรวมประมาณ 491.22 ตารางเมตร
ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการ และพื้นที่ปฏิบัติงาน ดังกล่าวข้างต้น จะทำให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ตลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 1,015,000 บาท และอาจทำให้ได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนในช่วงปีสัญญา 2567 – 2568 ลดลง ประกอบด้วย
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 74 ล้านบาท
- ท่าอากาศยานภูเก็ต ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 19 ล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม ทอท.มีโครงการที่จะเพิ่มรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป อีกทั้งการขอคืนพื้นที่ครั้งนี้ ทอท.จะนำไปดำเนินการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆ เพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามมาตรฐานการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสมัยใหม่ เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังและความต้องการด้านการใช้บริการของผู้โดยสารให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของ ทอท. และรัฐบาลที่จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการจัดอันดับไปสู่ 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายในปี 2568 และจะไปสู่อันดับ 1 ใน 20 ภายใน 5 ปีนับจากนี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์