รัฐหนุนส่งออกต้นไม้ไปซาอุฯ 10 ล้านต้น ตอบโจทย์ Saudi Arabia Green initiative’

รัฐหนุนส่งออกต้นไม้ไปซาอุฯ 10 ล้านต้น ตอบโจทย์ Saudi Arabia Green initiative’

นลินี หารือบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนซาอุดีอาระเบีย ปลื้ม MOU ส่งออกไม้ล้อมไปซาอุฯ 10 ล้านต้น สร้างรายได้ให้แก่ประเทศและเกษตรกรอย่างยั่งยืน ชี้ Saudi Vision 2030 เป็นโอกาสของภาคเอกชนไทย

นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับนาย Osama Kokandy ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท Vision Ambassadors ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการค้า การลงทุนระหว่างประเทศจากซาอุดีอาระเบีย โดยให้บริการทั้งในด้านการบริหาร และการสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิคแก่นักลงทุนว่า ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการหาแนวทางในการขยายความร่วมมือมือในภาคส่วนสําคัญระหว่างไทยและซาอุฯ

โดยล่าสุดบริษัท Vision Ambassadors ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ดีเวลลอปเม้น จำกัด เพื่อส่งต้นไม้ล้อมในประเทศไทยให้กับซาอุฯ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยตั้งเป้าส่งออกต้นไม้ล้อมไว้ที่ 10 ล้านตน เพื่อตอบโจทย์ Saudi Arabia Green initiative ที่ต้องการต้นไม้ 1 หมื่นล้านต้น ทั้งนี้ มีพันธุ์พืชในประเทศไทยกว่า 200 ชนิดที่สามารถปลูกได้ในประเทศซาอุฯ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยการส่งออกไม้ล้อมนี้เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยและแก่เกษตรกรผู้ปลูกไม้ล้อมอย่างยั่งยืน 

ผู้แทนการค้าไทย กล่าวเสริมว่า ในระหว่างการหารือ ผู้แทนบริษัท Vision Ambassadors ได้เปิดเผยว่าซาอุดีอาระเบียมีการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วอันเป็นผลจาก Saudi Vision 2030 ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนซาอุฯ

รัฐหนุนส่งออกต้นไม้ไปซาอุฯ 10 ล้านต้น ตอบโจทย์ Saudi Arabia Green initiative’

เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไปสู่ New Horizon ด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศที่มีความหลากหลายและขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายสำคัญ    ในการลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมน้ำมัน

รัฐหนุนส่งออกต้นไม้ไปซาอุฯ 10 ล้านต้น ตอบโจทย์ Saudi Arabia Green initiative’

ซึ่งตนเห็นว่านโยบายนี้จะเป็นโอกาสอันดีของภาคเอกชนไทยในการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับซาอุดีอาระเบียมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสาขาสาธารณสุข พลังงานทดแทน

วัสดุก่อสร้าง ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว และอาหารแปรรูปและอาหารฮาลาล ทั้งนี้ ในปี 2566 ซาอุดีอาระเบียเป็น คู่ค้าอันดับที่ 17 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง โดยการค้าสองฝ่ายมีมูลค่กว่า 8,796.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย มูลค่าการค้ารวมระหว่างสองประเทศยังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก ดร. นลินี กล่าวทิ้งท้าย