กฟผ.โชว์ระบบ ‘BackEN EV’หนุนธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
กฟผ. โชว์ระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “BackEN EV” พร้อมให้คำปรึกษา ระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ผู้ประกอบการบริหารจัดการสถานีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้ผู้สนใจธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดงาน EGAT EV the Journey to Business Solutions งานสัมมนาสำหรับผู้สนใจธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเปิดให้คำปรึกษา และให้บริการระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า BackEN EV โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 200 คน ณ อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ บางกรวย จ.นนทบุรี
นายเทพรัตน์ กล่าวว่า กฟผ. มุ่งมั่นดูแลความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ และการสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศ โดยตลอดระยะเวลา 3 ปี กฟผ. ร่วมขับเคลื่อนการสร้างระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าให้เข้มแข็งมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และดึงดูดผู้ลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยผ่านการพัฒนาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EleX by EGAT ที่มีการขยายครอบคลุมทั่วพื้นที่ในประเทศไทย
การพัฒนาแอปพลิเคชัน EleXA ที่มีความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้รถ EV และการพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า BackEN EV ที่ช่วยบริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยไฮไลท์สำคัญของงานนี้ คือ การเปิดรับให้คำปรึกษาพร้อมเจรจาธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ EV กฟผ. ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในการเริ่มต้นในการลงทุนในธุรกิจ ตั้งแต่รูปแบบโมเดลการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จ
รวมถึงผลตอบแทนจากการลงทุน การเลือกตำแหน่งสถานีที่เหมาะสมกับสถานที่ พร้อมให้บริการระบบ BackEN EV ที่บริหารจัดการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ประกอบการมีสถานีชาร์จได้ง่ายขึ้น สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับธุรกิจเดิมของผู้ประกอบการ
“ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราคิดเพียงว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าก็พอแล้ว แต่วันนี้ความต้องการสถานีชาร์จไฟฟ้าไม่ใช่แค่จำนวนสถานีเท่านั้น แต่ผู้ใช้รถ EV มีความต้องการสะดวกสบายมากขึ้นทั้งการค้นหาสถานีชาร์จ จองหัวชาร์จ และจ่ายเงิน กฟผ. จึงมีการพัฒนาสถานีชาร์จ EleX by EGAT และแอปพลิเคชัน EleXA เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถ EV รวมถึงบริการให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการที่สนใจติดตั้งสถานีชาร์จรถ EV ได้เลือกให้เหมาะสมกับสถานที่และรูปแบบธุรกิจ” นายเทพรัตน์ กล่าว
นายพิชิต พงษ์ประเสริฐ หัวหน้าหน่วยงาน EGAT EV Business Solutions กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รถ EV มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 1,000 คัน เป็นกว่า 1.2 แสนคันในปัจจุบัน เนื่องจากนโยบายของรัฐบาล และการลงทุนรถ EV ในประเทศ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ EV มีมากขึ้น โดยสถานีชาร์จของ กฟผ. ถือเป็นสถานีชาร์จที่มีจุดแข็งเรื่องความเสถียรของระบบไฟฟ้า ทำให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจ
ส่วนผู้ประกอบการที่จะเข้ามาลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในขณะนี้จะมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าต่อยอดธุรกิจเดิม เช่น ธุรกิจโรงแรม คาเฟ่ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า Community Mall โดย กฟผ. จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจสถานีชาร์จแบบครบวงจร
ทั้งรูปแบบโมเดลการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จที่เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละประเภท ผลตอบแทนจากการลงทุน การเลือกตำแหน่งสถานีที่เหมาะสมกับสถานที่ การควบคุมสถานีด้วยระบบบริหารจัดการ BackEN EV และใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน EleXA ทำให้ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการระบบ BackEN EV ของ กฟผ. แล้วกว่า 70 ราย
“ปีนี้ กฟผ. ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มเครือข่ายผู้ประกอบการที่เข้าร่วมลงทุนธุรกิจ EV แบบครบวงจรอีก 160 ราย ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจเข้ามาพูคุยกับ กฟผ. วันละไม่ต่ำกว่า 20 ราย โดยหากเป็นการติดตั้งสถานีชาร์จขนาดเล็กใช้งบประมาณราว 2-3 แสนบาท ก็เริ่มลงทุนได้แล้ว” นายพิชิต กล่าว
สำหรับผู้สนใจธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สามารถติดต่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ EV กฟผ. ฟรี และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง LINE OA: @BackenEV https://egatev.egat.co.th หรือ FB Page: EGAT EV