'สุรพงษ์' ขีดเส้นไฮสปีดไทย - จีนสร้างจบปี 71 ลุยชง ครม.อนุมัติเฟส 2
“สุรพงษ์” ขีดเส้นไฮสปีดไทย - จีน ก่อสร้างครบทุกสัญญาภายในปีนี้ อัพเดตงานโยธาคืบหน้า 33.48% มั่นใจเปิดให้บริการในปี 2571 พร้อมดันต่อเฟส 2 โคราช - หนองคาย ชงเข้า ครม. ภายใน ก.ย.นี้
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ รถไฟความเร็วสูง ไทย - จีน ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) โดยระบุว่า โครงการก่อสร้าง ไฮสปีดเทรน ระยะที่ 1 ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้วกว่า 33.48% ตนได้กำชับให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งรัดก่อสร้างและแก้ปัญหาอุปสรรคที่เหลืออยู่ใน 2 สัญญาสุดท้ายให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อผลักดันโครงการเปิดบริการในปี 2571
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังมี 2 สัญญาที่ยังไม่สามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ ประกอบด้วย สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งเป็นสัญญามีงานโยธาทับซ้อนกับโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ปัจจุบันทราบว่าทางคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) อยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขร่างสัญญา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ และทางเอกชนคู่สัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ยืนยันจะเป็นผู้ลงทุนงานโยธาส่วนนี้
ขณะเดียวกัน ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการปรับความเร็วการเดินรถ 1 สถานี ในช่วงสถานีดอนเมือง - สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อรองรับการใช้ระบบรถไฟความเร็วสูงของทั้งสองโครงการ เนื่องจากเดิมโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จะใช้ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่มากกว่าไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน ดังนั้นจึงได้ข้อสรุปจะปรับลดความเร็วลงเหลือความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนสัญญา 4 – 5 ช่วงบ้านโพ - พระแก้ว ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ลงนามสัญญาจ้างงานโยธา เนื่องจากติดปัญหาก่อสร้างพื้นที่สถานีอยุธยา ล่าสุด ร.ฟ.ท.ได้ส่งรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA) ฉบับสมบูรณ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ไปยังองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาติดขัด เพราะสถานีที่จะก่อสร้างยังอยู่บนเส้นทางรถไฟเดิม ประกอบกับที่ผ่านมา สาเหตุของความไม่เข้าใจเนื่องจากได้ขาดการติดต่อจากยูเนสโกมาตั้งแต่ปี 2563 แต่ขณะนี้ได้ดำเนินการตามกระบวนการของยูเนสโกแล้ว โดยยืนยันว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน จะต้องมีสถานีรถไฟอยุธยา เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน ส่วนการยืนราคาของภาคเอกชนนั้น ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับเอกชนได้ภายในปีนี้
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าของ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ดำเนินการออกแบบและปรับแบบแล้วเสร็จ ซึ่งนำปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการก่อสร้างจุดตัดรถไฟ และผลกระทบการสัญจรของประชาชนมาปรับใช้ในการออกแบบโครงการนี้ สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอมายังกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอขอความเห็นชอบไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายใน ก.ย. 2567 และจะสามารถเปิดประมูล พร้อมเริ่มกระบวนการก่อสร้างภายในปลายปีนี้ โดยใช้เวลาก่อสร้างราว 4 – 5 ปีแล้วเสร็จ เปิดให้บริการในปี 2572 ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น จะพิจารณาที่มีความเหมาะสม ซึ่งจะต้องหารือกับสำนักงบประมาณก่อน