สต็อกน้ำมันดิบลดเกินคาด หนุน น้ำมัน WTI ปิดบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด แต่ยังมีแรงกดดันระหว่างวัน
เมื่อวันพุธ (3 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.29% ปิดที่ 83.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.28% ปิดที่ 87.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบ รายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 12.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 680,000 บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ รายสัปดาห์ ลดลง 12.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 680,000 บาร์เรล
ส่วน สต็อกน้ำมันเบนซิน ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมัน ยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า พายุเฮอริเคนเบริล (Beryl) จะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน โดยแม้ว่าสำนักงานเฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐพยากรณ์ว่าเฮอริเคนเบริลจะอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกในสัปดาห์นี้ แต่ก็คาดว่าอิทธิพลของเฮอริเคนลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกและลมแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งและโครงสร้างพื้นฐานด้านการส่งออกของเม็กซิโก อีกทั้งจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันอยู่ในภาวะตึงตัว โดยเม็กซิโกเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมิ.ย. รวมทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.ของจีนที่ชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน โดยจีนเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย
*ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) เนื่องในวันชาติสหรัฐ*