VUCA World ความเสี่ยงที่หมุนรอบ แต่เกษตรกรต้องไม่เสี่ยง เกษตรฯ ปรับแผนป้อง
บริบทโลกยุคใหม่เปลี่ยนผ่านจาก Disruptive World เข้าสู่ VUCA World สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เศรษฐกิจ ทำให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกปรับตัว เตรียมพร้อมรับมือ ให้ทันสถานการณ์ และต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางเพื่อลดความไม่แน่นอนต่างๆ ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างรวดเร็ว
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า “การรับมือการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นเรื่องท้าทายที่นักส่งเสริมการเกษตรต้องเปลี่ยนไปพร้อมๆ กัน กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีนักส่งเสริมการเกษตรอยู่ทุกพื้นที่ นับเป็นความท้าทายที่ผมจะต้องนำองค์กรขนาดใหญ่ ดูแลนักส่งเสริมการเกษตรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่กว่า 10,000 คน ดูแลเกษตรกรอีกกว่า 6 ล้านครัวเรือน มีพื้นที่การเกษตรดูแลกว่า 148 ล้านไร่
นับเฉพาะในฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ดูแลเครือข่ายเกษตรกร 8 เครือข่ายหลัก ได้แก่ เกษตรแปลงใหญ่ Smart Farmer Young Smart Farmer วิสาหกิจชุมชน ยุวเกษตรกร กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน และศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน และแน่นอนว่าในโลกยุควูก้า ภาคเกษตรยังต้องเจอกับความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย ขาดแคลนแรงงาน
รวมถึงรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่การบริโภคอาหารสุขภาพและโภชนาการที่ดี รวมไปถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
เรื่องต่างๆ คือความท้าทายของภาคการเกษตร ที่ล้วนส่งผลให้นักส่งเสริมการเกษตร ต้องปรับตัวแทบทั้งสิ้น การสร้างความเข้าใจให้เกษตรกร ควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงองค์กร
"การพัฒนาพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) เป็นสิ่งที่ผม ให้ความสำคัญกับต้องมองทั้งการมีส่วนร่วมของเกษตรกรและนักส่งเสริมการเกษตร ที่จะต้องเดินคู่กัน เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Science Technology and Innovation) ต้องอ่านข้อมูลได้ ใช้ข้อมูลเป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตรจะต้องช่วยสร้างทักษะให้เกิดการเรียนรู้กับเกษตรกร "
โดยได้จัดอบรมหลักสูตรต่างๆ ให้กับเกษตรกร และนักส่งเสริมการเกษตร เช่น Learning Skills สามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล ประเมินสถานการณ์และและคิดอย่างสร้างสรรค์
เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน Digital Literacy ความสามารถในการเข้าใจ เข้าถึง และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีอยู่
ในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารทางการเงินและบัญชี การลงทุนในตลาดทุน
มีการวางแผนการเงิน เพื่อให้สามารถทราบรายได้ รายจ่ายตลอดปี และวางแผนการเงิน สอดคล้องกับช่วงเวลาเก็บเกี่ยวให้ผลผลิต เรียนรู้และเข้าใจตามช่วงอายุของเกษตรกร มีการเก็บออม และนำเงินออมไปลงทุนเพื่อ
การออมต่างๆ จะช่วยให้ลดความเสี่ยงด้านปัญหาการเงินในอนาคต
นักส่งเสริมการเกษตร สามารถแนะนำเกษตรกรให้เข้าถึงแหล่งช่องทางเงินทุนต่างๆ ของรัฐได้ และต้องมีการบริหารจัดการองค์ความรู้ การปรับตัวให้เหมาะสมกับปัจจุบันและอนาคต สามารถพลิกฟื้นจากปัญหาได้เร็วและดีกว่าเดิม มุ่งสู่ ESG : Environmental, social, corporate governance
รวมถึงต้องหมั่นเพิ่มเติมความรู้จากแหล่งต่างๆ ดำเนินชีวิต
ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งความพอประมาณ ความพอดี ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ ความมีเหตุผล พิจารณาจากสาเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์มาควบคุมการผลิตสินค้าเกษตร ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้ และไกล
นอกจากนี้ยังต้องมีเงื่อนไขความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ และมีความตระหนักในคุณธรรม มีความชื่อสัตย์สุจริต ส่งต่อของให้ผู้บริโภคด้วยความตระหนักถึงความเป็นธรรม
และมีความอดทน มีความพากเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต รวมถึงการจัดการผลผลิต การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Logistics and Supply Chain management) การจัดการข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Management and Data Analytics) จะต้องวางแผนการผลิตตั้งแต่ต้นทาง เพื่อควบคุมคุณภาพ ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าเกษตรได้ ตามมาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานต่างๆ สร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ
รวมถึงเรียนรู้การทักษะด้านการตลาดและการตลาดแม่นยำ การจัดการแม่นยำ การเก็บเกี่ยวแม่นยำด้วย มีความเข้าใจการจัดระเบียบโลกใหม่ที่จะเกิดขึ้น เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง และการรับรองตัวเองภายใต้เงื่อนไขต่างๆ เช่น การติดฉลากคาร์บอน เป็นการแสดงข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือเตรียมรองรับกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation-free Regulations: EUDR)
การลดการเผาในพื้นที่การเกษตร ก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่ประเทศไทยเข้าร่วมข้อตกลงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
ทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่เพียงแต่เกษตรกรต้องปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต ปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น นักส่งเสริมการเกษตรเองก็ต้องทำงานควบคู่กับเกษตรกรให้บริการ ให้คำแนะนำ เรียนรู้เครื่องมือ เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ อัพเดทข้อมูลต่างๆ ให้กับพี่น้องเกษตรกร เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ digital technology
และกรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการและเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร ด้วยแนวทางตลาดนำ นวัตกรรมเสริม การลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็น 3 เท่า ภายในปี 2570 ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้”