‘เศรษฐา’ ประชุมบอร์ดฮาลาลนัดแรก ตั้งเป้าเพิ่ม ‘GDPอุตสาหกรรม’ 5.5 หมื่นล้าน
เศรษฐาเร่งขับเคลื่อนศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย พร้อมเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการ 4 ปี (2567-2570) วางกรอบใช้งบ 1,230 ล้านบาท มุ่งยกระดับไทยสู่ ASEAN Halal Hub ภายในปี 2570 หวังดัน GDP ภาคอุตสาหกรรมเพิ่ม 1.2% คิดเป็นมูลค่า 55,000 ล้านบาท สร้างแรงงานเพิ่ม 100,000 ตำแหน่งต่อปี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ (กอฮช.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กอฮช. ครั้งที่ 1/2567 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบความคืบหน้าในการดำเนินงานและงบประมาณการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 4 ปี (พ.ศ.2567-2570) ซึ่งมีวิสัยทัศน์มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่การเป็น ASEAN Halal Hub หรือศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน ภายในปี 2570 ตอบโจทย์นโยบาย IGNITE THAILAND ที่ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็น ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub)
"แผนปฏิบัติการฉบับนี้มีเป้าหมายที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 1.2% คิดเป็นมูลค่า 55,000 ล้านบาท และสร้างงานในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่งต่อปี" นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลจะผลักดันการจัดตั้งไทยแลนด์ ฮาลาล วัลเลย์ (Thailand Halal Valley) เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ“
นายเศรษฐาฯ กล่าวต่อว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของไทยจะช่วยสร้างการรับรู้และการยอมรับผลิตภัณฑ์ฮาลาลไทย เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนธุรกิจ MICE นอกจากนี้ ยังเป็นการขับเคลื่อน Soft Power ของไทย ลดข้อจำกัด แก้ไขระเบียบ และบูรณาการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฮาลาล โดยได้มอบหมายให้ ดร.นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย รับผิดชอบภารกิจการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทยไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหาการเจรจาเพื่อลดอุปสรรคจากกฎระเบียบและมาตรการทางการค้ากับประเทศคู่ค้า เพื่อให้เข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ๆ
ด้านนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเสริมว่า ขั้นตอนต่อไปจะนำ (ร่าง)แผนปฏิบัติการฯ เสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อให้ความเห็นชอบ โดยแผนปฏิบัติการฯ ได้กำหนดผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลเป้าหมาย (ระยะแรก) ไว้ 5 กลุ่ม ได้แก่
1. อาหารฮาลาล เช่น เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป อาหารทะเล อาหารพร้อมรับประทาน อาหารฮาลาลโดยธรรมชาติ และอาหารมุสลิมรุ่นใหม่
2. แฟชั่นฮาลาล ประกอบด้วย สิ่งทอ อัญมณี เครื่องหนัง
3. ยา สมุนไพร เครื่องสำอางฮาลาล
4.โกโก้และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง
5. บริการและการท่องเที่ยวฮาลาล
ทั้งนี้ ภายใต้ (ร่าง) แผนปฎิบัติการฯ ปี 2567-2570 ได้วางกรอบใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,230 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 มาตรการ คือ
1.การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตฮาลาไทย
2. การพัฒนาการผลิตได้มาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลไทย
3. การยกระดับปัจจัยแวดล้อมอุตสาหกรรมฮาลาลไทย โดยมีโครงการที่เป็น Quick Win (พ.ศ. 2567 - 2568) ใช้งบประมาณ 95 ล้านบาท ในการดำเนินงาน ได้แก่ สร้างการรับรู้ศักยภาพสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทย การขยายตลาดสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทยในประเทศและต่างประเทศ การจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย และการจัดทำระบบ Halal IU ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลรายงานเชิงลึกและวิเคราะห์ตลาด เป็นต้น
"มูลค่าของตลาดการค้าอาหารฮาลาลโลกในปี 2567 อยู่ที่ 2.60 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.28 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้น 12.5% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมโลกและการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมุสลิม นับเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยต้องเข้าไปมีส่วนร่วม"
นอกจากนี้ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ข้อมูลว่า ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายและแผนพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย สร้างกลไกสนับสนุน Ecosystem ของอุตสาหกรรมฮาลาลไทย เพื่อยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ควบคู่กับมาตรฐานสินค้าฮาลาลและมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริมการค้าผ่านการขยายตลาดการค้าสินค้าและบริการฮาลาล ทั้งในและระหว่างประเทศ รวมถึงทำหน้าที่เป็น National Focal Point ในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ
"ศูนย์ฯ จะทำหน้าที่แก้ปัญหาอุปสรรค อำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษา แนะนำ พร้อมทั้งให้บริการด้านข้อมูลสารสนเทศแก่ผู้ประกอบการฮาลาลอย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังจะยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการฮาลาลไทย เช่น การพัฒนาสินค้าและบริการฮาลาล การพัฒนาโลจิสติกส์ฮาลาล และนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล ทั้งนี้ ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย จะมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอุตสาหกรรมฮาลาลของไทย มีการพัฒนาศักยภาพ สร้างงาน สร้างอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ และสามารถเข้าถึงตลาดในไทยและตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น" ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว
ทั้งนี้ การพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน รวมทั้งลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและทั่วถึง