ถอดหุ้น EA พ้น ‘Thai ESG’ ไม่กระทบภาพรวม ‘พิชัย’ชี้ลงแค่ 0.35% ของมูลค่ากองทุน
“พิชัย” ชี้ถอดหุ้น EA พ้น กองทุน Thai ESG ไม่กระทบภาพรวม เหตุลงทุนในหุ้นนี้แค่ 0.35% ของมูลค่ากองทุนทั้งหมดกว่า 6 พันล้านบาท ชี้ตลาดหุ้นมีปัญหาต้องไม่หวั่นไหวต้องร่วมกันแก้
กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคณะทำงานเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน ได้มีมติถอดบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ออกจากรายชื่อหุ้นยั่งยืน “SET ESG Ratings” เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์ SET ESG Ratings ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป หลังจากที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหาร EA และพวกทุจริตในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จ.นครสวรรค์ และจ.ลำปาง จนเป็นเหตุให้บริษัทเสียหาย 3,400 ล้านบาท
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่าแม้ว่าบริษัท EA จะเป็นดัชนีตัวหนึ่งที่กองทุน Thai ESG เลือกเข้าไปลงทุนแต่มูลค่าที่เข้าไปลงทุนในหุ้นของ EA คิดเป็นเพียง 0.35% ของมูลค่ากองทุน Thai ESG ที่มีขนาดกองทุนประมาณ 6 พันกว่าล้านบาท ซึ่งหากคำนวณแล้วหุ้น EA ถือเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NVA) เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เป็นเรื่องปกติที่กองทุนนี้มีการกระจายการลงทุนในหุ้นกว่า 200 – 300 ตัว เราต้องดูไปเรื่อยๆเพราะแต่ละตัวนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องมีการทบทวนเกณฑ์การลงทุนใน Thai ESG หรือไม่ นายพิชัยตอบว่าแน่นอนต้องมีการทบทวนว่าจะมีหลักเกณฑ์ใด หรือว่ามุมมองไหนที่เราต้องมีการมองเพิ่มเติมให้มีความสอดคล้องมากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณี EA จะกระทบกับความเชื่อมั้นของตลาดหุ้นหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวว่าก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เมื่อมีปัญหาเรื่องแค่นี้จะหวั่นไหวไม่ได้ เรื่องนี้เราต้องแก้กัน
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.ให้ข้อมูลว่า ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 พบว่ากองทุนรวม Thai ESG มีมูลค่า NAV ทั้งหมด 6,844 ล้านบาท มีการลงทุนในหุ้นบริษัท EA รวม 24 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเพียง 0.35% ของ NAV ทั้งหมด
ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า กองทุนรวม Thai ESG ทุกกองทุนสามารถลงทุนได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด แม้จะไม่นับการลงทุนในหุ้นบริษัท EA เป็น eligible assets
สำหรับกองทุนรวมอื่น ๆ มีมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัท EA คิดเป็น 0.06% ของ NAV รวมทั้งอุตสาหกรรม โดย บลจ. มีหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาลงทุนตามความเหมาะสมด้วย