'เศรษฐพุฒิ' ส่งหนังสือถึง 'เศรษฐา' ปิดช่องโหว่ดิจิทัลวอลเล็ต ระบบโอน-จ่าย

'เศรษฐพุฒิ' ส่งหนังสือถึง 'เศรษฐา' ปิดช่องโหว่ดิจิทัลวอลเล็ต ระบบโอน-จ่าย

"ธปท." ส่งหนังสือถึงนายกฯ เตือนระบบโอนจ่ายเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ลักษณะ Open Loop เตรียมระวังเรื่องความปลอดภัย ระบบใช้งานไม่ล่ม ตรวจสอบแก้ไขได้เร็ว

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศจึงได้มอบหมายให้นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุม 

นอกจากนั้นยังได้ทำหนังสือถึงนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต แสดงข้อห่วงกังวลต่อการดำเนินโครงการในประเด็นเกี่ยวกับระบบเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

เนื่องจาก ระบบเติมเงินจะต้องรองรับการใช้งานของประชาชนและร้านค้าจำนวนมาก และมีลักษณะเป็นระบบเปิด (Open Loop) ที่ต้องเชื่อมโยงกับธนาคารและ non-bank เป็นวงกว้าง ดังนั้นควรติดตามการพัฒนาระบบเติมเงินฯ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงว่าการดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งด้านความมั่นคงปลอดภัย ความถูกต้องน่าเชื่อถือ และความมีเสถียรภาพพร้อมใช้งานได้ต่อเนื่อง 

 

โดยระบุรายละเอียดที่ควรพิจารณา ดังนี้

1.ระบบลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบสิทธิของประชาชนและผู้ประกอบการ และการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ต้องมีความปลอดภัยของระบบ ได้มาตรฐาน สามารถป้องกันความเสี่ยงของการถูกสวมรอย หรือใช้เป็นช่องทางการทำทุจริตหรือทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้ รวมทั้งต้องมีศักยภาพสามารถรองรับการลงทะเบียนพร้อมกันของผู้ใช้งานจำนวนมากได้

 

2.ระบบตรวจสอบเงื่อนไขและอนุมัติรายการชำระเงิน บันทึกบัญชี และ Update ยอดเงินเมื่อมีการใช้จ่ายหรือถอนเงินออกจากดิจิทัลวอลเล็ต (Payment Platform) จะต้องสามารถรองรับการตรวจสอบหากเกิดปัญหาการชำระเงินไม่สำเร็จหรือเกิดข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว 

รวมทั้งต้องมีการทดสอบระบบก่อนใช้จริงอย่างครบถ้วนตามมาตรฐานการพัฒนาระบบชำระเงิน ตั้งแต่ตัวระบบ การทำงานร่วมและเชื่อมต่อกับระบบอื่น ไปจนถึงการใช้งานของประชาชนและร้านค้า เพื่อให้มั่นใจว่าระบบดำเนินการได้ถูกต้อง ปลอดภัย รองรับการใช้งานจำนวนมาก (Load Capacity) ได้

นอกจากนี้ ควรมี Call Center หรือช่องทางการรับแจ้งปัญหาได้ โดยรวดเร็ว และเพียงพอต่อการสอบถามจากประชาชนจำนวนมากพร้อมกัน โดยสามารถให้คำแนะนำการแก้ปัญหาได้ถูกต้องและมีมาตรฐาน

3.เตรียมความพร้อมในการพัฒนาและทดสอบการเชื่อมต่อระบบกับ payment platform ให้ทันตามกำหนด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดทำและนำส่งพิมพ์เขียวที่แสดง system architecture
ของ payment platform (เช่น technical specifications, system requirements, business rules) ให้ธนาคารและ non-bank โดยเร็วที่สุด 

โดยก่อนการเริ่มให้บริการจะต้องแจ้งให้ ธปท. ทราบล่วงหน้าก่อน 15 วัน เนื่องจากการเชื่อมต่อ payment platform กับ mobile application เป็นการเปลี่ยนแปลงด้านระบบ IT อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะกระทบลูกค้าและการให้บริการเป็นวงกว้าง โดย ธปท.จะสอบทานผลการประเมินและผลทดสอบความเสี่ยงด้านต่าง ๆ และอาจขอข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงกับระบบอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม โดยเฉพาะในกรณีที่ Open Loop อาจกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการชำระเงินโดยรวม

นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงประเด็นอื่นๆ   สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรชี้แจงกลไกการลดความเสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือทุจริตในขั้นตอนต่างๆ ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น รวมถึงมีมาตรการในการติดตามการดำเนินโครงการฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีกระบวนการที่รัดกุมเพียงพอที่จะป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น การซื้อขายสินค้าที่ผิดเงื่อนไขของโครงการฯ และการขายลดสิทธิ์ (discount) ระหว่างประชาชนและร้านค้า 

นอกจากนั้น ยังได้กล่าวถึง กรณีการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 จำนวน 122,000 ล้านบาท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดทำและชี้แจงแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนในการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้สอดคล้องกับหลักการของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายเงินระหว่าง ปีงบประมาณนั้น โดยไม่สามารถรองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณถัดไปได้