เปิดเวที Mega Show Bangkok 2024 เชื่อม ‘การค้า-ลงทุน’ระดับโลก
ภาคเอกชนดันงานแสดงสินค้าระดับโลก Mega Show Bangkok 2024 เริ่ม 17-20 ก.ค.นี้ ปักธงไบเทคบางนา สร้างเวทีเจรจาธุรกิจ หนุนไทยเป็น Sourcing Hub 6 กลุ่มสินค้าทั้งอิเล็กทรอนิกส์ ของขวัญของตกแต่งบ้าน สินค้าเพื่อสุขภาพ
ComAsia Limited ร่วมกับ Worldex และเนชั่นกรุ๊ป จัดแสดงสินค้า Mega Show Bangkok 2024 ซึ่งเป็นการผลักดันงานแสดงสินค้าระดับเวิลด์คลาส โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 ก.ค.2567 ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยนายปีเตอร์ เจิ่ง Director ComAsia Limited กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน
นายแพทย์พรหมินทร เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน Mega Show Bangkok 2024 ว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าผู้จัดงานได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะเชื่อมต่อการค้าการลงทุนระดับโลก และสิ่งสำคัญในการเดินตามนโยบายรัฐบาล คือ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่ประเทศไทยยึดหลักความสำคัญของการที่จะไม่เป็นคู่ส่วนของความขัดแย้ง
ทั้งนี้ จุดเด่นของไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศ โดยอีกข้อประจักษ์ของสัญญาณที่เห็นชัด คือ ข้อขัดแย้งระหว่างประเทศขั้วมหาอำนาจ อย่างสหรัฐกับจีนที่มีปัญหาสงครามการค้าระหว่างกันได้เลือกใช้ประเทศไทยในการเจรจาเพื่อให้ความขัดแย้งคลี่คลายลง ถือได้ว่าไทยยังเดินตามนโยบายต่างประเทศที่จะเชื่อมความสัมพันธ์โลกและการเปิดตลาดการค้าใหม่
สำหรับหลักคิดต่อจากนี้ คือ การทำให้ธุรกิจดีขึ้น โดยรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นของภาคธุรกิจจากการเก็บภาษี ดังนั้น หน้าที่ของรัฐบาลจึงต้องส่งเสริมภาคธุรกิจให้เติบโตขึ้น และการติดต่อสังคมหรือธุรกิจโลกจึงสำคัญ รวมถึงการจัดงาน Mega Show Bangkok 2024 ครั้งนี้
ทั้งนี้ถือเป็นการยืนยันให้ภาคธุรกิจเกิดความมั่นใจและได้มาเจอกัน และอีกความมั่นใจ คือ ประเทศไทยถือเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์เหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางการจัดหาสินค้า (Sourcing Hub) ของเอเชียให้นักธุรกิจมาเจอกัน และเกิดธุรกิจที่เติบโตขึ้น จากจุดเด่นที่สำคัญ คือ ประชาชนคนไทยมีการต้อนรับที่ดียิ่ง
นายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) บรรยายพิเศษ ว่า Mega Show Bangkok 2024 ถือเป็นงานโชว์ระดับ World Class เพราะมีผู้ซื้อระดับโลกเดินทางมาเข้าร่วมเพื่อจัดหาสินค้า
“ผู้ซื้อมองหาความหลากหลายตอบโจทย์เป้าหมายผลักดันไทยเป็นสถานที่จัดหาสินค้า หรือ Sourcing Place ระดับโลก โดยเฉพาะสินค้าประเภทของขวัญของชำร่วย ของตกแต่งบ้าน ไลท์ติ้งอิเล็กทรอนิกส์ Health Care ฮาร์ดแวร์และการ์เดนนิ่ง”
นอกจากนี้ ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าที่หลากหลายและมีความสำคัญแห่งหนึ่งของโลก โดยรัฐบาลสนับสนุนการลงทุนผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) การส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และการเติมทุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมผ่าน ธพว.และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank)
รัฐบาลเตรียมพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน 6 ด้าน
อยางไรก็ดี การจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพดีหลากหลายและเหมาะสมให้กับลูกค้าในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของธุรกิจ Supply Chain เพราะในการจัดหาสินค้าจากแหล่งผลิตเพียงแค่ภายในประเทศ อาจทำให้ต้องเจอกับข้อจำกัดมากมาย ทั้งปัจจัยด้านการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ปัญหาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงปัจจัยด้านราคาที่อาจสูงจนเกินไปส่งผลให้การทำธุรกิจไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้
เมื่อพิจารณาจากประโยชน์ของการเป็น Sourcing Hub การจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดหาสินค้า (Sourcing Hub) ของเอเชียได้นั้น จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลและบุคลากร ดังนี้
1.การปรับปรุงกฎระเบียบ โลจิสติกส์ พิธีการศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกต่อธุรกิจที่เป็น Sourcing Hub เพิ่มความโปร่งใส ความรวดเร็ว และทำให้ธุรกิจเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ได้อย่างถูกต้อง และมั่นใจ
2.การติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดและกฎการค้าของประเทศคู่ค้า สำหรับทุกประเทศมีกฎการจัดซื้อทั่วโลก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกบริษัทต้องติดตามข่าวสาร และล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในกฎของตลาด
3.เลือกประเทศที่มีระบบประกันคุณภาพที่เข้มแข็ง โดยมีหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียงและมีมาตรการควบคุมคุณภาพเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสินค้า และไทยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น สมอ. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
รับทักษะด้านภาษาธุรกิจไทยยังมีข้อจำกัด
4.การพัฒนาทักษะทางภาษาของบุคลากร การจัดหาและจัดซื้อจัดจ้างทั่วโลกอาจเป็นเรื่องยาก หากมีอุปสรรคทางภาษาระหว่างผู้ซื้อและ Supplier แม้ว่าในปัจจุบันอาจใช้เทคโนโลยีในการแปลภาษามาช่วยก็ตาม
5.การเป็น One Stop Service ให้ลูกค้าเพื่อช่วยให้ธุรกิจจัดหาวัตถุดิบและสินค้าได้หลากหลาย และให้บริการด้าน Supply Chain ที่มีประสิทธิภาพได้ครบจบที่เดียว โดยอาจครอบคลุมถึงบริการคัดเลือก Supplier บริการตรวจสอบคุณภาพสินค้าไปจนถึงบริการการขนส่งและกระจายสินค้าจนเป็น One Stop Service ที่จัดหาสินค้าทุกประเภทที่ลูกค้าต้องการ และมอบความสะดวกให้ลูกค้า
6.การมีเครือข่ายและพันธมิตรที่ให้บริการ Sourcing Solutions ช่วยให้ธุรกิจแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งในตลาดเดียวกันได้ เพราะพาร์ทเนอร์ด้านการจัดหาสินค้าระดับนานาชาติรายใหญ่จะมีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับ Supplier แต่ละราย อีกทั้งมีศักยภาพในการซื้อสินค้าปริมาณมากในครั้งเดียว ทำให้ซื้อสินค้าได้ในราคาถูกลง และมีบริหารจัดการ Safety Stock ที่ดี ทำให้ส่งมอบสินค้าได้ไม่สะดุด
ชู“เมกาโชว์”เชื่อมตลาดสินค้าไทยสู่เวทีโลก
นอกจากนี้ Mega Show Bangkok 2024 จะช่วยผู้ประกอบการเปิดตลาดและแสดงศักยภาพสินค้าไทยแก่ตลาดโลก แม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่แสดงศักยภาพให้เห็นมาตรฐาน คุณภาพและนวัตกรรม
ทั้งนี้ รัฐบาลอยากเห็นธุรกิจภาคเอกชน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีประสบความสำเร็จ ซึ่งเห็นศักยภาพที่จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันสินค้าให้เป็น Soft Power ของชาติ โดยภาคเอกชนต้องการตลาดที่ดี การพัฒนาและโปรโมตสินค้า เพื่อยกระดับภาพลักษณ์สินค้าไทย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมสนับสนุนนักลงทุนที่จะมาต้้งฐานการผลิต
สำหรับงาน Mega Show Bangkok 2024 จัดในวันที่ 17-20 ก.ค. 2567 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บนพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร รวบรวมผู้ขายชั้นนำหลากหลายมากกว่า 500 ราย ประกอบด้วย 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ 1.Gift and Home 2.Electronics 3.Hardware and Gardening 4.Wellness and Health Care 5.Lighting และ 6.Pets
นอกจากนี้ มีเทรนด์สินค้าที่น่าจับตามอง เช่น สินค้าสุขภาพและความงาม สินค้าแฟชั่น สินค้าตกแต่งบ้านและสวน สินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสินค้าแม่และเด็ก สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง และสินค้าโอท็อปที่เป็นหัตถกรรมไทย โดยจะตอบโจทย์ผู้ซื้อและสร้างไอเดียการทำธุรกิจ และสร้างโอกาสการเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อระดับนานาชาติ