'เศรษฐา' สั่ง 'กฤษฎีกา - สภาพัฒน์' ร่วมศึกษามิกซ์ยูสท่าเรือคลองเตย
นายกฯ สั่งเพิ่มหน่วยงานกลาง ดึงกฤษฎีกา – สภาพัฒน์ ร่วมศึกษาโครงการ “ท่าเรือคลองเตย” โจทย์ต้องรอบคอบ เกิดประโยชน์สูงสุด ด้านคมนาคมเดินหน้าเสนอแผนฉบับล่าสุดปี 2562 ปั้นมิกซ์ยูส - ที่อยู่อาศัยแนวสูง ย้ำไม่ย้ายท่าเรือ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของการย้ายท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ โดยระบุว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้ศึกษาโครงการดังกล่าวอย่างละเอียดรอบคอบ พร้อมทั้งให้เพิ่มหน่วยงานกลางเพื่อเข้ามาช่วยศึกษา ซึ่งขณะนี้มี 2 หน่วยงานที่จะเข้ามาช่วย ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.
อย่างไรก็ดี ตามนโยบายรัฐบาลยืนยันว่าโครงการศึกษานี้ ไม่ได้ย้ายท่าเรือกรุงเทพ แต่จะเป็นการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ ให้มีขีดความสามารถมากขึ้น จากเดิมที่เป็นโครงการพัฒนาแนวราบ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้พื้นที่ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จึงศึกษาความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการแนวสูง ที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับประชาชนโดยรอบท่าเรือกรุงเทพ
ขณะเดียวกัน การเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือกรุงเทพ กทท.จะศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินด้วยโครงการเชิงพาณิชย์ต่างๆ ต่อยอดในเรื่องของการขนส่งให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มโอกาสในการท่องเที่ยว รองรับเรือโดยสารเพื่อการท่องเที่ยว และกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยเรื่องเหล่านี้นายกรัฐมนตรีให้ศึกษาเป็นไปตามกระบวนการ เน้นย้ำว่าต้องรอบคอบ แต่เรื่องเร่งรัดที่ต้องทำทันทีคือ การขยายขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือระนอง เพื่อรองรับโครงการแลนด์บริดจ์
“ตอนนี้เพิ่ม 2 หน่วยงานเข้ามาช่วยศึกษาโครงการให้รอบคอบมากขึ้น โดยจะมีทางกฤษฎีกา และ สศช. เข้ามาช่วย ซึ่งยังไม่ได้มีการนัดประชุม เพราะนายกฯ เพิ่งมอบหมายให้เพิ่มหน่วยงานเข้ามา คาดว่าเร็วๆ นี้จะประชุมร่วมกันครั้งแรก โดยเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน นายกฯ เน้นย้ำให้ศึกษาไปตามกระบวนการ”
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายให้ กทท.นำผลการศึกษาฉบับล่าสุดในปี 2562 เกี่ยวกับแผนพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ มาเป็นข้อเสนอของการพิจารณาทบทวนแผนพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ โดยภายใต้แผนที่ดำเนินการศึกษามานั้น จะครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่ทั้งหมด 2,353 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่เชิงพาณิชย์ในลักษณะผสมผสาน (Mixed-Use) โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย Smart Community ในลักษณะที่อยู่อาศัยแนวสูง และการพัฒนาท่าเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว
วางบทบาทฮับขนส่งประเทศ
อีกทั้งยังมอบหมายให้ กทท. สร้างรูปแบบธุรกิจ และกิจกรรมใหม่ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการ และตอบสนองความต้องการของผู้นำเข้า - ส่งออก เพื่อให้ท่าเรือกรุงเทพพัฒนาเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ที่สำคัญของประเทศ โดยส่งเสริมให้ท่าเรือกรุงเทพเป็นศูนย์กลางการให้บริการร่วมกับท่าเรือเอกชนในแม่น้ำเจ้าพระยา (Chaophraya Super Port) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และเป็นศูนย์กลางการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ร่วมกับภาคเอกชน
นอกจากนี้ ยังดำเนินโครงการเขตปลอดอากร (Bangkok Port Free Zone) สร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า คาดว่าจะมีรายได้จากการดำเนินการ 6-7 ล้านบาทต่อปี รวมไปถึงท่าเรือกรุงเทพยังมีแผนขยายขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้า คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าในอนาคต ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าเรือฝั่งตะวันตกเป็นท่าเรือกึ่งอัตโนมัติ และโครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า และศูนย์เชื่อมโยงการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
ด้าน นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า ผลการศึกษาพัฒนาท่าเรือกรุงเทพฉบับล่าสุดในปี 2562 จะมีการพัฒนาพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในพื้นที่ท่าเรือ จะปรับปรุงให้เป็นท่าเรือสีเขียว บริการสายการเดินเรือด้วยระบบเทคโนโลยีต่างๆ ส่วนพื้นที่นอกเขตท่าเรือจะมีการพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งเคยมีการศึกษาไว้ทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์การประชุม และที่อยู่อาศัยต่างๆ
จัดการพื้นที่ใช้ประโยชน์หลากหลาย
ขณะเดียวกัน กทท.ยังมีข้อเสนอในการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ ด้วยโครงการใหม่ที่เกิดขึ้น อาทิ กิจการท่าเรือรองรับเรือสำราญเพื่อการท่องเที่ยว และการปรับปรุงท่าเรือชายฝั่ง และท่าเรือขนส่งทางทะเล ให้เป็นระบบอัตโนมัติ ถือเป็นการย่อส่วนท่าเรือขนส่งสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหา ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก แต่สามารถจัดสรรระบบขนส่งสินค้าให้รองรับตู้ขนส่งสินค้าในปริมาณเท่าเดิม ลดจำนวนรถบรรทุกเข้าออกพื้นที่ท่าเรือ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดและสร้างมลภาวะ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผังโครงการแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตยของ กทท. บนที่ดินรวม 2,353 ไร่ มีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท ก่อนหน้านี้ถูกจัดสรรออกเป็น 5 กลุ่มพัฒนา ประกอบด้วย
- กลุ่มพัฒนาพื้นที่ A อาทิ อาคารสำนักงานท่าเรือใหม่ และอาคารสำนักงานเช่าเอกชน, โครงการที่พักอาศัย,โครงการพัฒนา Medical Hub, อาคารสำนักงาน, Smart Community, อาคารอยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการพนักงานการท่าเรือ, อาคารอยู่อาศัยประเภทเช่า และ Retail Mixed use
- กลุ่มพัฒนาพื้นที่ B อาทิ Smart Port (กึ่งอัตโนมัติ), ท่าเทียบเรือตู้สินค้าฝั่งตะวันออก, ท่าเทียบเรือสินค้าชายฝั่ง
- กลุ่มพัฒนาพื้นที่ C อาทิ พื้นที่ Cruise Terminal, Retail Mixed use, อาคารสำนักงาน, พื้นที่พาณิชย์ Duty Free, โรงแรม, พื้นที่พาณิชยกรรม, อาคารจอดรถ, ศูนย์ฝึกอบรม, พื้นที่ศูนย์อาคารแสดงสินค้า และอาคารสาธารณูปโภค
- ส่วนพื้นที่รองรับในการพัฒนาอนาคต X อาทิ พื้นที่คลังเก็บสินค้า, สำนักงาน E- Commerce, พื้นที่จอดรถบรรทุก, พื้นที่ ปตท.เช่าใช้
- กลุ่มพัฒนาพื้นที่ G อาทิ Sport Complex และสวนสาธารณะ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์