'บาทอ่อน-อินเดียคุมส่งออก' หนุน 'พาณิชย์' เพิ่มเป้าส่งออกข้าว 8.2 ล้านตัน
กรมการค้าต่างประเทศ เผย ครึ่งแรกปี 67 ส่งออกข้าวทะลุ 5.08 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25% ได้แรงหนุนจากความต้องการข้าวเพื่อความมั่นคงทางอาหาร อินเดียคงมาตรการควบคุมการส่งออกข้าว และบาทอ่อน ปรับคาดการณ์ส่งออกเป็น 8.2 ล้านตัน จับตามาตรการส่งออกข้าวของอินเดียหลังเลือกตั้งใหม่
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 (เดือนม.ค.- มิ.ย.) ว่า มีปริมาณ 5.08 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25.12 % และมีมูลค่า ประมาณ 3,304 ล้านดอลลาร์หรือ 17,836 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 55.50 % เป็นผลมาจากผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภคและเก็บเป็นสต็อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับอินเดียยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าว และค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ประมาณ 36 – 37 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้
สำหรับแนวโน้มการส่งออกข้าวครึ่งปีหลัง เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยพบว่าข้าวไทยมีปัจจัยบวกทีดี เพราะปีนี้ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียมีต้องการนำเข้าข้าวในปริมาณที่สูง 4.70 ล้านตัน และ3.60 – 4.30 ล้านตันตามลำดับเพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อและภัยแล้งในประเทศ และยังมีแรงหนุนจากผลผลิตข้าวนาปีช่วงไตรมาสสุดท้ายที่จะเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 27.04ล้านตันมากกว่าปีก่อน ราว 5.75% เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนมากขึ้น
“การส่งออกข้าวช่วงครึ่งปีแรกเติบโตเร็วมากแตะระดับ 5.08ล้านตัน ขณะที่มูลค่าส่งออกโต กว่า 55% ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังมีปัจจัยบวกหลายตัว เชื่อว่า ช่วง6เดือนที่เหลือไทยจะส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า เดือนละ 5แสนตัน ดังนั้นกรมฯ และสมาคมฯ จึงร่วมกันปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกข้าวไทยปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 7.5 ล้านตัน มูลค่ารวม 148,200 ล้านบาท เป็น 8.2 ล้านตัน มูลค่ารวม 162,360ล้านบาท หรือ 4,500 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่าส่งออกทั้งปีในปีนี้เกินกว่าเป้าหมายมากถึง14,160 ล้านบาท”
อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามมาตรการการส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งรัฐบาลอินเดียอาจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวก่อนผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตหลักจะออกสู่ตลาดในเดือนตุลาคม 2567 อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตข้าวของประเทศผู้ส่งออกข้าว ได้แก่ เวียดนาม ปากีสถาน เมียนมา และกัมพูชา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงจากความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน และสถานการณ์ความผันผวนของค่าระวางเรือที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
นายรณรงค์ กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยในปีนี้อยู่ในทิศทางที่ดี ซึ่งกรมฯ จะเดินหน้าส่งเสริมตลาดเพื่อกระตุ้นให้ข้าวไทยอยู่ในกระแสและเป็นที่จดจำเพื่อให้ผู้นำเข้านึกถึงการนำเข้าข้าวจากไทยเป็นลำดับต้น ตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการ “รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ ในการส่งออกไปต่างประเทศ”
โดยในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้มีแผนจัดกิจกรรมผลักดันการส่งออกข้าวไทย ประกอบด้วย การจัดงาน Thai Rice Networking Forum 2024 เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลกและกระชับความสัมพันธ์กับเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าข้าว การจัดงาน Thailand Rice Convention (TRC) สัญจร ลงพื้นที่จัดสัมมนาถ่ายทอดข้อมูลแนวโน้มความต้องการข้าวในตลาดโลกให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้ง การพบหารือกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวสำคัญ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่วนการขายข้าวแบบจีทูจีในช่วงครึ่งปีหลังไทย ยังคาดหวังการขายข้าวจีทูจีให้อินโดนเซียเพิ่มอีก 1-2 แสนตัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตอบรับจากอินโดนีเซีย