EXIM BANK และ ibank ผนึกความร่วมมือ 14 หน่วยงาน หนุนส่งออกฮาลาลไทยสู่ตลาดโลก
EXIM BANK และ ibank ร่วมกับ 14 หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ยกระดัระบบนิเวศอุตฯ ฮาลาล หนุนผู้ประกอบการไทยส่งออกสู่การเป็น ASEAN Halal Hub ภายในปี 2571 ตั้งเป้าปีนี้ปล่อยสินเชื่อและประกันความเสี่ยง วงเงิน 2,000 ล้านบาท คาดสร้างมูลค่าส่งออกได้เกือบหมื่นล้าน
วันที่ 6 ส.ค.2567 ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ร่วมกับ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) ผนึกกำลังหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน 14 หน่วยงาน ขยายความร่วมมือเพื่อยกระดับระบบนิเวศของอุตสาหกรรมฮาลาลไทยในทุกมิติ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก” ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของการส่งออกอุตสาหรรมฮาลาลไทยในปีนี้
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของการใช้จ่ายผู้บริโภคในตลาดฮาลาลเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% จาก 1.62 ล้านล้านดอลลาร์ ไปถึง 2.29 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งการเติบโตนี้เกิดจากแรงผลักดันของการขยายประชากรมุสลิมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก
"โดยกลุ่มบริษัทระดับโลก ตั้งแต่ BRF บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ของโลก เนสท์เล่ ไปจนถึง Nike ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ตลาดฮาลาล"
ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็เล็งเห็นการขยายตัวของตลาดฮาลาลโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญของอุตสาหกรรมฮาลาลไทย จึงทำให้มีแนวคิดจัดตั้งหน่วยงานหรือคณะทำงานต่างๆ ขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย
โดยในวันนี้ ibank และ EXIM BANK ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านฮาลาลครอบคลุมทุกภาคส่วนของประเทศ เพื่อตกลงร่วมกันผลักดันส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลไทยสู่ตลาดโลก
“ภายใต้ความร่วมมือนี้ ibank ถือเป็นหนึ่งในระบบนิเวศฮาลาลที่สำคัญ การเป็นสถาบันการเงินที่ฮาลาลกลายเป็นหนึ่งกลไกสำคัญที่ต้องรับผิดชอบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ด้วยการเป็นที่พึ่งของแหล่งเงินทุนที่ฮาลาลตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อจะไปหล่อเลี้ยง เกื้อกูล ธุรกิจฮาลาลต่างๆ ให้เติบโตสู่เป้าหมายประเทศต่อไป”
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ปัจจุบัน ไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่อันดับที่ 15 ของโลกและเป็นจุดหมายท่องเที่ยวอันดับ 4 ของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมทั่วโลก (ในกลุ่มประเทศ Non-OIC) ที่สนใจสินค้าอาหารและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของไทยเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการไทยจึงควรยกระดับการพัฒนาสินค้าฮาลาล โดยเฉพาะอาหาร
นายรักษ์ กล่าวต่อว่า EXIM BANK จึงพร้อมสานพลังกับหน่วยงานพันธมิตร สร้างผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลของไทยที่แข่งขันได้ในตลาดโลก ผ่านการเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน รวมถึงเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
“โดยคาดว่าปีนี้จะมีการปล่อยสินเชื่อและประกันความเสี่ยงเป็นวงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจการส่งออกได้เกือบหมื่นล้านบาท”
ทั้งนี้ EXIM BANK จัดให้มีสิทธิพิเศษด้านประกันการส่งออกให้แก่ลูกค้าของ ibank ที่เป็นชาวมุสลิม และสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการไทยทั่วไปที่ต้องการเงินทุนจาก EXIM BANK เพื่อเริ่มต้นส่งออกสินค้าฮาลาลหรือขยายธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อสร้างนักรบเศรษฐกิจไทยในตลาดโลกและยกระดับสินค้าอาหารไทยสู่สากล สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลสู่ ASEAN Halal Hub ภายในปี 2571
สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครขอรับบริการด้านสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือขยายการลงทุนจาก EXIM BANK สำหรับ SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกและผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก ได้แก่
- สินเชื่อเอ็กซิมเริ่มต้นส่งออก ดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.35% ต่อปี (Prime Rate - 1%) วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยปีแรก 0.25% ต่อปี
- สินเชื่อ EXIM Green Start ดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.10% ต่อปี (Prime Rate - 2.25%) วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0.25% ต่อปี
- สินเชื่อเอ็กซิมเติมทุนส่งออก ดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี วงเงินสูงสุดสำหรับ SMEs 20 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0.25% ต่อปี รวมถึงยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า
- สินเชื่อเพื่อธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.85% ต่อปี วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท
และกรมธรรม์ประกันส่งออก EXIM for Small Biz เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ ฟรีค่าเบี้ยประกัน 1 ราย มูลค่า 1,800 บาท สำหรับการรับประกันวงเงินผู้ซื้อ 0.30 ล้านบาท ด้วยเทอมการชำระเงิน 90 วัน หรือรับส่วนลดค่าประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อตามเงื่อนไขของธนาคาร และกรณีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าฮาลาลจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม Voucher มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท เพื่อเป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันบริการประกันการส่งออก EXIM for Small Biz สำหรับการทำประกันผู้ซื้อรายที่ 2 หรือส่วนลดค่าประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อ จำนวน 1 ราย
โครงการข้างต้นของทั้งสองหน่วยงานจะช่วยให้ SMEs ไทยมีโอกาสผันตัวเป็นผู้ส่งออกได้มากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าอาหารไทยสู่มาตรฐานสากล ท่ามกลางปัจจัยท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจในโลกการค้าปัจจุบัน
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว EXIM BANK ร่วมกับ ibank ได้ลงนามความร่วมมือกับ 9 หน่วยงานในวันนี้ (6 ส.ค.) ได้แก่ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร, คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ, ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย, สถาบันอาหาร, สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, สถาบันฮาลาล และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ส่วนอีก 5 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล จะร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก” ภายในงาน WORLD HAPEX 2024 จังหวัดสงขลา ซึ่งทุกหน่วยงานมีบทบาทในการเป็น Business Partner เคียงข้างผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลตลอดวงจรธุรกิจ เพื่อติดอาวุธผู้ประกอบการไทยให้พร้อมออกไปแข่งขันในตลาดสินค้าฮาลาลได้อย่างประสบความสำเร็จ