กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือ อตก. กระจายลำไยออกนอกพื้นที่

กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือ อตก. กระจายลำไยออกนอกพื้นที่

กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วม อตก. เตรียมพร้อมกระจายผลผลิตลำไย จัดหาพื้นที่จำหน่าย ช่วยเกษตรกรส่งผลผลิตคุณภาพสู่ผู้บริโภค

นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า เพื่อลดการกระจุกตัวของลำไย กรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) วางแนวทางการดำเนินงานร่วมกันเพื่อระบายลำไยสดช่อให้ออกนอกพื้นที่ให้มากที่สุด ภายใต้กรอบ Modelประกอบด้วย

กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือ อตก. กระจายลำไยออกนอกพื้นที่ กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือ อตก. กระจายลำไยออกนอกพื้นที่

1) จัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้าลำไย โดยประสานงานจัดหาสถานที่สำหรับจำหน่ายลำไย ทั้งหน่วยงานราชการ เอกชน และเครือข่ายต่าง ๆ ประสานเกษตรกรโครงการสินค้าเกษตรมูลค่าสูงใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน และลำพูน มาออกร้านจำหน่ายลำไย จำหน่ายสินค้าในพื้นที่ตลาดเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร และเครือข่ายในกรุงเทพมหานคร ซึ่งดำเนินการได้ทันที่ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์การจำหน่ายผลผลิตลำไยและรับPre – Orderสินค้าล่วงหน้า

2)  จำหน่ายผลผลิตผ่านแผนธุรกิจ โดย อ.ต.ก. จะเป็นผู้จัดหาลูกค้าPre – Orderและรวบรวมจัดส่งให้ผู้ซื้อ ประสานงานกับกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีการMOUให้ความร่วมมือและสนับสนุนภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างเต็มที่ ประสานงานการซื้อสินค้าลำไยของหน่วยงาน และประสานเกษตรกรเพื่อจัดส่งสินค้าให้กับทาง อ.ต.ก.

กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือ อตก. กระจายลำไยออกนอกพื้นที่

และ3) จำหน่ายสินค้าผ่านModern tradeหรือช่องทางออนไลน์

เพื่อให้รับซื้อสินค้าเกษตรกรไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า โดยประสานเกษตรกรที่มีความพร้อมร่วมดำเนินการ และประชาสัมพันธ์สินค้าลำไยคุณภาพผ่านทางตลาดเกษตรออนไลน์

 

 การดำเนินงานตามกรอบModelการกระจายผลผลิตลำไยนี้จะควบคู่ไปกับแนวทางการแก้ไขลำไยทั้งระบบของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการผลผลิตลำไยคุณภาพ ครั้งที่ 2/2567 ได้แก่

กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือ อตก. กระจายลำไยออกนอกพื้นที่

1) การตั้งคณะกรรมการหรือหน่วยงานภาครัฐกำหนดมาตรการทางกฎหมายในการรับซื้อลำไยสดช่อ

2) การรับซื้อลำไยแบบตะแกรงร่อนให้เป็นไปตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ

3) การติดป้ายราคารับซื้อลำไยสดและลำไยร่อนร่วง ซึ่งทั้ง 3 ข้อ ที่ประชุมได้มอบหมายคณะทำงานพัฒนาตลาดและการตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์ลำไย ประสานกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการกำกับติดตามและพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการด้านการตลาดสินค้าลำไยดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ

 4) การทำสัญญาซื้อ-ขาย ผลผลิตลำไยทั้งสวนหรือเป็นกิโลกรัม ให้มีหน่วยงานหรือองค์กรกำกับดูแลในการทำนิติกรรมสัญญาซื้อ-ขาย ซึ่งสามารถทำได้โดยอ้างอิงระบบเกษตรพันธสัญญา มีสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมดูแล ทั้งนี้ ระบบเกษตรพันธสัญญาจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และความเข้มแข็งทางธุรกิจของประเทศให้สามารถแข่งขันตลาดการค้าเสรีได้

 และ 5) การสนับสนุนด้านองค์ความรู้และงบประมาณการทำโรงรมซัลเฟอร์ไดออกไซต์,ห้องรมกำมะถัน,ห้องเย็นเก็บผลผลิต และส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตเชิงอุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงการวิจัยลำไย ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เสนอโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการตลาดสินค้าลำไยในสถาบันเกษตรกรฤดูกาลผลิต ปี 2567 โดยที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 3/2567 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ ในฤดูกาลการผลิตลำไย ปี 2567 คาดว่าปริมาณผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล รวมทั้งประเทศ จำนวน 1,432,727 ตัน แบ่งเป็น ในฤดู 695,656 ตัน และนอกฤดูกาล 737,071 ตัน

เนื้อที่ให้ผล คาดว่าจะลดลงจากปีที่แล้ว โดยมีเนื้อที่รวม 1,656,355 ไร่ เนื่องจากแหล่งผลิตสำคัญในภาคเหนือและภาคกลาง เกษตรกรโค่นต้นลำไยอายุมากให้ผลผลิตน้อยไปปลูกพืชอื่นทดแทน เช่น ทุเรียน เงาะ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยางพารา

ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นเพียงพอตั้งแต่ปลายปี 2566 จนถึงต้นปี 2567 ส่งผลให้ลำไยแทงช่อดอกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในปีที่แล้วลำไยราคาดี จึงจูงในให้เกษตรกรใช้สารกระตุ้นการออกดอก และบำรุงต้นลำไยเพิ่มขึ้น