เศรษฐกิจฟื้นช้า โจทย์ใหญ่ 'แพทองธาร' TDRI แนะปรับแผนแจกเงินดิจิทัล
“ทีดีอาร์ไอ” ชี้เศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือปีนี้ ขยายตัวต่อเนื่องแต่ยังขยายตัวช้า ชี้จัดตั้งรัฐบาลเร็วไม่กระทบเศรษฐกิจในภาพรวมมาก แม้เปลี่ยนนายกฯ คาดทั้งปีขยายตัว 2.3-2.6% แนะทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต เพิ่มงบดูแลสวัสดิการกลุ่มเปราะบาง
เศรษฐกิจไทยอยู่ช่วงฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ได้ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยขยายตัว 3% ขณะที่หน่วยงานเศรษฐกิจอย่างกระทรวงการคลัง คาดว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.7%
ทั้งนี้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีกำหนดแถลงจีดีพีไตรมาส 2 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2567 ในวันที่ 19 ส.ค.2567 โดยก่อนหน้านี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัว 2-3%
ขณะที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกรัฐมนตรี ประกาศว่ารัฐบาลใหม่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ภายในเดือนก.ย.2567
หลังจากนั้น ครม.จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้ง น.ส.แพทองธาร พร้อมที่จะผลักดันนโยบายเศรษฐกิจต่อเนื่อง และจะมีการกระตุ้นครั้งใหญ่
นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปี 2567 จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง และคาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ 2.3-2.6%
ทั้งนี้แม้ที่ผ่านมาจะเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีแต่การได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เร็วทำให้ความผันผวนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากปัจจัยการเมืองลดลง โดยเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่การฟื้นตัวทำได้ช้า และฟื้นตัวในแต่ละภาคส่วนแบบไม่เท่าเทียมกัน
นอกจากนี้คาดว่าการฟื้นตัวขึ้นกับมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งต้องดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจาก ครม.ชุดเดิมมากน้อยเพียงใด และจะปรับเปลี่ยนหรือสานต่อนโยบายเดิมมากน้อยเพียงใด
“นโยบายเดิมมีทั้งที่ดี และที่มีเครื่องหมายคำถามอยู่บ้าง จึงอาจเป็นโอกาสในการปรับปรุง และให้เลือกนโยบายที่ตรงจุดมากยิ่งขึ้น”
ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตควรเดินหน้าต่อหรือควรเป็นนโยบายอื่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายนณริฏ กล่าวว่า ควรปรับเปลี่ยน
แม้ว่าการแจกเงินอาจจะยังทำอยู่เพราะเป็นนโยบายพรรค แต่ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยแยกเป็นเงินดิจิทัลแบบย่อยเน้นใช้จ่ายร้านเล็กหรือธุรกิจรากหญ้า และเพิ่มการเติมเงินสวัสดิการให้เด็กเล็ก คนยากจน ผู้สูงอายุ คนพิการเป็นพิเศษจากสิทธิเดิม
รายงานข่าวระบุว่า นโยบายเติมเงิน 10,000 บาทในกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วตั้งเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ และพยายามหาแหล่งเงินมาดำเนิน และปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการมาต่อเนื่อง
ทั้งนี้เปิดให้ประชาลงทะเบียนวันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียน 28 ล้านคน โดยที่ผ่านมาเลื่อนกรอบเวลาแจกจากเดือน ก.พ.2567 เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 และล่าสุดขยับเป็นไตรมาส 4 ปี 2567
สำหรับนโยบายนี้ขับเคลื่อนยากทั้งประเด็นกฎหมายการเงินการคลัง วิธีการงบประมาณ รวมทั้งการวางระบบยืนยันตัวตน และระบบธุรกรรมการเงินขนาดใหญ่ที่ยังดำเนินการไม่เสร็จโดยมีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะทบทวนนโยบายนี้ว่าจะเดินหน้าต่อหรือจะทำโครงการอื่นแทนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์