กระทรวงเกษตรฯ เร่งช่วยเกษตรกรผู้ภัยน้ำท่วม 4 จังหวัดภาคเหนือ
กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 4 จังหวัดภาคเหนือ นำเจ้าหน้าที่ขนย้ายสัตว์เลี้ยง ปศุสัตว์ที่ประสบขึ้นสู่ที่สูง สนับสนุนอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ รักษาสัตว์ป่วย
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากปัญหาน้ำท่วมใน 4 จังหวัดทางภาคเหนือที่ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน ล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า จัดตั้งโรงครัวผลิตอาหารและแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้(23 .ส.ค. 2567)และได้สั่งให้ส่วนราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระดมสรรพกำลังให้ช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายรวม 27,515 ไร่ ผลกระทบด้านปศุสัตว์รวม 2,407 ตัว (ข้อมูล ณ 22 ส.ค. 67) ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องมือ-เครื่องจักรเพื่อระบายน้ำในพื้นที่ และจัดเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในสังกัดที่อยู่ในระดับภูมิภาคเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า ให้คำปรึกษาและดูแลเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว
โดยกรมชลประทานได้ เตรียมเครื่องมือเครื่องจักร 5,382 หน่วย และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 427 หน่วย ในส่วนของ กรมปศุสัตว์ได้แจกจ่ายยาดูแลสุขภาพสัตว์ จำนวน 492 ตัว และแจกจ่ายพืชอาหารสัตว์ ปริมาณ 48 ตัน นอกจากนี้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้ดำเนินการจัดเตรียมข้าวสาร และ พร้อมช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบทันที
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ด่านกักกันสัตว์ และศูนย์วิจัยอาหารสัตว์ ในพื้นที่ประสบอุทกภัยและหน่วยงานในสังกัดที่อยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อย่างเต็มกำลัง ตามข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ห่วงใยเกษตรกรเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังกำชับให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังและพร้อมเข้าช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที จากที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากในภาคเหนือเนื่องจากฝนตกหนัก ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่ว่าส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ใน 4 จังหวัดได้แก่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย และพะเยา
โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย และพะเยา ว่ามีพื้นที่ประสบภัยรวม 22 อำเภอ 68 ตำบล 468 หมู่บ้าน โดยมีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 24,724 ราย มีสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 1,478,861 ตัวแบ่งเป็น โค 32,460 ตัว กระบือ 6,082 ตัว สุกร 7,633 ตัว แพะ/แกะ 692 ตัว และสัตว์ปีก 1,431,994 ตัว รวมถึงแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 142 ไร่
ส่วนรายงานสัตว์ตายและสูญหายใน 3 จังหวัดได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และน่าน แบ่งเป็น โค 9 ตัว กระบือ 7 ตัว สุกร 12 ตัว แพะ 36 ตัว และสัตว์ปีก 538 ตัว รวมตาย/สูญหาย 602 ตัว สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่และหน่วยงานสังกัดกรมปศุสัตว์เข้าช่วยเหลือเฉพาะหน้า ดังนี้ อพยพสัตว์ 10,783 ตัว มอบพืชอาหารสัตว์ 31,615 กิโลกรัม สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 506 ชุด รักษาสัตว์ 76 ตัว
ทั้งนี้ล่าสุดได้รับรายงานด่วนเมื่อเช้าวันที่ 23 สิงหาคม 2567 จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแพร่ว่า พื้นที่ตัวเมืองจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแพร่ได้ถูกน้ำท่วมจึงทำให้ต้องแจ้งหยุดทำการชั่วคราวซึ่งขณะนี้พื้นที่เลี้ยงสัตว์และสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรจังหวัดแพร่ในพื้นที่อำเภอสอง อำเภอหนองม่วงไข่ อำเภอร้องกวาง อำเภอเมืองแพร่ อำเภอสูงเม่น อำเภอเด่นชัย ได้รับผลกระทบหลายราย ส่วนอำเภอลองและอำเภอวังชิ้นคาดว่าจะได้รับผลกระทบตามมาอีกหนึ่งถึงสองวัน
" สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและหน่วยงานในสังกัดที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เร่งเข้าสำรวจผลกระทบและความเสียหายด้านปศุสัตว์จากอุทกภัยที่เกิดขึ้นทันที ที่สถานการณ์คลี่คลายเพื่อเร่งช่วยเหลือชดเชยเยียวยา ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติ เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2564 ซึ่งแต่ละชนิดสัตว์จะมีอัตราและเกณฑ์การช่วยเหลือดังนี้"
1.โคอายุน้อยกว่า 6 เดือนอัตราตัวละไม่เกิน 13,000 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 5ตัว อายุ 6 เดือนถึงหนึ่งปี 22,000 บาท 1-2 ปี 29,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 35,000 บาท
2.กระบืออายุน้อยกว่า 6 เดือน 15,000 บาท รายละไม่เกิน 5 ตัว อายุ6 เดือน -1 ปี 24,000 บาทอายุมากกว่า 1-2 ปี 32,000 บาทอายุมากกว่า 2ปีขึ้นไป 39,000 บาท
3.สุกรอายุ 1-30 วัน 1500 บาทไม่เกินรายละ 10 ตัว อายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป 3000 บาท
4. แพะ/แกะ อายุ 1-30 วัน 1,500 บาท ไม่เกินรายละ 10 ตัว อายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป 3,000 บาท
5.ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง อายุ 1-21 วัน 30 บาทไม่เกินรายละ 300 ตัว อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 80 บาท
6.ไก่ไข่อายุ 1- 21 วัน 30 บาท ไม่เกินรายละ 1000 ตัวอายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 100 บาท
7.ไก่เนื้ออายุ 1- 21 วัน อัตราไม่เกิน 20 บาท ไม่เกินรายละ 1000 ตัวอายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 50 บาท
8.เป็ดไข่ อายุ 1- 21 วัน 30 บาท ไม่เกินรายละ 1000 ตัวอายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 100 บาท
9.เป็ดเนื้อเป็ด/เทศ อายุ 1-21วัน 30 บาท ไม่เกินรายละ 1000 ตัวอายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 80 บาท
10.นกกระทา อายุ 1-21วัน 10 บาท ไม่เกินรายละ 1000 ตัวอายุมาก อายุมาก 21 วันขึ้นไป 30 บาท
11.นกกระจอกเทศ 2,000 บาท ไม่เกินรายละ 10ตัว
12.ห่าน 100 บาท ไม่เกินรายละ300 ตัว
13.แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 1980 บาท ต่อไร่ รายละไม่เกิน 30 ไร่
หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องการแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ สามารถแจ้งที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหรือ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ในพื้นที่ หรือแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง