ผู้ว่าฯ กนอ. ลงพื้นที่ 3 นิคมฯ อยุธยา ตั้ง 'วอร์รูม' ปิดทุกจุดเสี่ยงน้ำท่วม
“วีริศ-สุเมธ” ลงพื้นที่ 3 นิคมฯ อยุธยา “นครหลวง-บางปะอิน-บ้านหว้า” สั่งตั้ง “วอร์รูม” ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด 24 ชม.กำชับปิดทุกจุดเสี่ยง สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการและชุมชนในพื้นที่
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. ว่า กนอ. มีการตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ตั้งอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า
ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุดน้ำจากภาคเหนือได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดสุโขทัย และมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย ขณะที่ กรมชลประทานได้รายงานสถานการณ์ว่า ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำที่ไหลลงมา รวมถึงฝนที่อาจจะตกในระยะนี้ด้วย ซึ่ง กนอ. ได้เตรียมความพร้อมรับมือมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
ปัจจุบัน กนอ. มีระบบป้องกันน้ำท่วมในแต่ละนิคมอุตสาหกรรม ดังนี้ นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแบบคันดินบดอัดแน่นเสริมด้วยวัสดุป้องกันคอนกรีต ความยาว 5.5 กิโลเมตร ความสูง 8.2 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พร้อมสถานีสูบน้ำ 1 สถานี เครื่องสูบน้ำ 4 ชุด มีกำลังสูบน้ำได้สูงสุด 21,600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เครื่องจ่ายไฟฟ้าสำรอง 1 แห่ง และบ่อหน่วงน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง
นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแบบคันดินบดอัดแน่นเสริมด้วยคอนกรีต ความยาว 10 กิโลเมตร ความสูง 6 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พร้อมสถานีสูบน้ำ 4 สถานี เครื่องสูบน้ำ 18 ชุด มีกำลังสูบน้ำได้สูงสุด 32,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เครื่องจ่ายไฟฟ้าสำรอง 4 แห่ง และบ่อหน่วงน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรม 1 แห่ง
นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแบบคันดินบดอัดแน่นเสริมด้วยวัสดุป้องกัน ความยาว 11.1 กิโลเมตร ความสูง 5.4 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง พร้อมสถานีสูบน้ำ 1 สถานี เครื่องสูบน้ำ 5 ชุด มีกำลังสูบน้ำสูงสุด 54,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เครื่องจ่ายไฟฟ้าสำรอง 1 แห่ง และบ่อหน่วงน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรม 1 แห่ง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย และมีแนวโน้มว่าจะไหลเข้าสู่จังหวัดพิจิตรนั้น จากการสอบถามผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมพิจิตรพบว่า พื้นที่นิคมฯ ห่างจากแม่น้ำยม และไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม นิคมอุตสาหกรรมพิจิตรได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมไว้แล้วเช่นกัน ทั้งในด้านการป้องกันและการระบายน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่
นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. กล่าวว่า กนอ. กำชับให้ทุกนิคมอุตสาหกรรม ประสานงานกับทางจังหวัดในแต่ละพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานความช่วยเหลือ และเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหว อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมในวงกว้างได้ จึงขอให้เช็คความพร้อมในทุกส่วน รวมทั้งให้เตรียมความพร้อมล่วงหน้า ทั้งในเรื่องของศูนย์พักพิง ความพร้อมของเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการดูแลชุมชนที่อยู่รอบนิคมอุตสาหกรรมด้วย