ประธานกนอ. หวังรัฐบาลใหม่ ดันนโยบายลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ

ประธานกนอ. หวังรัฐบาลใหม่ ดันนโยบายลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ

ประธานบอร์ด กนอ. หวังรัฐบาลใหม่ โดย "แพทองธาร" นายกรัฐมนตรี เดินหน้าส่งเสริมการลงทุน ดันนโยบายลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ

KEY

POINTS

  • กนอ. มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก พร้อมดันนโยบายพลังงานสะอาด รับอุตสาหกรรมโลกและรองรับนักลงทุนเอสเอ็มอีไทย รับเทรนด์โลก
  • รัฐบาลเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี เชื่อไม่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน "กนอ." ถือเป็นหัวหอกสร้างความเชื่อมั่น ทุกนโยบายของรัฐบาล ภารกิจกนอ.ไม่เปลี่ยน มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมแข่งขันเวทีโลก
  • อยากให้นายกฯ ท่านใหม่ผลักดันการลงทุน โดยหากไม่ผลักดันในช่วงเวลานี้ก็อาจจะแข่งขันไม่ได้ และควรบรรจุนโยบายการลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ

เมื่อกระแส Green และความยั่งยืนเกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ทุกธุรกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงานต้องปรับตัว นโยบายภาครัฐจึงสำคัญ และยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการปรับเปลี่ยนทางการเมือง ล่าสุดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 แทนนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินให้พ้นจากเก้าอี้นายกฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนประเทศไทยในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร การช่วงชิงนักลงทุนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประเทศที่จะดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุน ดังนั้น การชูจุดเด่นโครงสร้างพื้นฐานจึงสำคัญ โดยเฉพาะพิ้นที่ตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จึงต้องเข้มข้นในการปรับแผนธุรกิจ และแผนการลงทุนในนิคมฯ เพื่อรองรับความต้องการตามการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์โลก

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า จากการที่กนอ. มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายพลังงานสะอาดเพื่อรองรับอุตสาหกรรมโลกและรองรับนักลงทุนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้ตอบรับกับเทรนด์โลก

อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มองว่าไม่กระทบกับความเชื่อมั่นนักลงทุน อีกทั้ง กนอ. ถือเป็นหัวหอกในการสร้างความเชื่อมั่น โดยมองว่านโยบายรัฐบาลไม่ว่าจะยุคไหนการบริหารนิคมอุตสาหกรรมก็จะไม่เปลี่ยน โดยเฉพาะการพัฒนา ยกระดับอุตสาหกรรมให้แข่งขันเวทีโลกได้

"อยากให้นายกฯ ท่านใหม่ช่วยผลักดันการลงทุน โดยหากไม่ผลักดันในช่วงเวลานี้ก็อาจจะแข่งขันไม่ได้ และควรดันนโยบายลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ" นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดตั้งรัฐบาลต่อจากนี้คงไม่ช้า เพราะจากการโหวดเลือกได้นางสาวแพทองธาร เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา คาดว่าในช่วง 1 เดือนก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พร้อมเดินหน้านโยบายต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

"นอกจากการผลักดันนโยบายการลงทุนเป็นวาระแห่งชาติแล้ว สิ่งที่อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการอีกสิ่งคือ นโยบาย Fast Track เพราะการดำเนินงานปกติจะต้องปรับเปลี่ยน นักลงทุนต่างต้องการพื้นที่สีเขียวมากขึ้น จึงต้องปรับกฎระเบียบและผังเมืองเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน เพราะกนอ. "เปรียบเสมือเป็นผู้รับประกัน" เพราะนักลงทุนจะต้องอยู่กับเรา หากทำได้จะดึงเม็ดเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล"  

ส่วนนโยบายแลนด์บริดจ์ ถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว กนอ. ถือเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินโครงการที่ต้องร่วมผลักดัน ยกระดับทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภารกิจของ กนอ. ถือว่าช่วยเพิ่ม GDP ประเทศได้ จากมูลค่าการลงทุนเฉลี่ย 2-3 แสนล้านบาทต่อปี จะช่วยทำให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง