กรมการค้าภายใน เผย น้ำท่วมทำผักใบเสียหายดันราคาสูงขึ้นเล็กน้อย
กรมการค้าภายใน เผย ผักใบ ทั้งผักชี ต้นหอม ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ด้นราคาสูงขึ้นเล็กน้อย ยันมีปริมาณเพียงพอ ส่วนราคาสินค้าเกษตรสำคัญ ทั้งข้าว มัน ข้าวโพด ปาล์ม ราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื้อสัตว์ลดลง ไข่ทรงตัว ด้านราคาผลไม้ ราคาดีต่อเนื่อง
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ โดยผักสด บางชนิดปรับเพิ่มขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากฝนตก และน้ำท่วม โดยเฉพาะผักใบ ที่มีความอ่อนไหวมาก เช่น ผักชี กก.ละ123 บาท ต้นหอม กก.ละ 129.50 บาท แต่ปริมาณมีเพียงพอ สามารถดึงผลผลิตจากแหล่งผลิตอื่นเข้าไปทดแทนได้ ผักคะน้า กก.ละ 41.60 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 45 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 33.60 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 33.30 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 39.50 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 34.20 บาท พริกขี้หนูจินดา 77.70 บาท มะนาว (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 3.75 บาท
ส่วนข้าวหอมมะลิราคา 16,050 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ราคา 15,800 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุมธานี 15,400 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 11,300 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเมล็ดยาว 13,900 บาทต่อตัน มันสำปะหลัง ราคา 2.95 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ความชื้น 14.5%) ราคาอยู่ที่ 11.40 บาทต่อกก. ปาล์มน้ำมันราคาอยู่ที่ 6.50 บาทต่อกก.
สำหรับกลุ่มเนื้อสัตว์ราคาทรงตัวและลดลง อาทิ หมูเนื้อแดงสัปดาห์นี้ เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 137.44 บาท ไก่เนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ยกก.ละ 82 บาท เนื้อน่อง เฉลี่ยกก.ละ 83.38 บาท เนื้อสะโพกเฉลี่ย กก.ละ 87.31 บาท และเนื้ออกเฉลี่ยกก.ละ 84.75 บาท ส่วนไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.23 บาท ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนสัตว์น้ำ ราคาทรงตัว โดยปลานิล กก.ละ 73.50 บาท ปลาทับทิม 107 บาท ปลาดุก 76.30 บาท กุ้งขาว (70 ตัว/กก.) กก.ละ 187 บาท
ทางด้านผลไม้ ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลไม้ภาคตะวันออก ทุเรียน มังคุด เงาะโรงเรียน และลองกอง ออกสู่ตลาดหมดแล้ว ผลไม้ภาคใต้ ทุเรียน ราคาดีมาก มังคุดก็ราคาดี และอีกไม่นานก็จะหมดฤดูกาลผลไม้ภาคใต้ จากนั้นจะเป็นผลผลิตลองกอง ที่จะออกสู่ตลาด ปีนี้ผลผลิตจะมีปริมาณ 4 หมื่นตัน ลดลง 30-40% เพราะเกษตรกรโค่นลองกอง และหันมาปลูกทุเรียนแทน โดยคาดว่าราคาจะดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วราคาเบอร์ 1 กก.ละ 40 บาท เบอร์รอง กก.ละ 25 บาท และส้มโอ ที่จะเริ่มออกตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ตลาดยังไปได้ดี ซึ่งหากหมด 2 ตัวสุดท้าย ปีนี้ จะถือเป็นปีทองของผลไม้อีกปีหนึ่ง ที่เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ทุกชนิด ขายผลผลิตได้ราคาดีกว่าปีที่แล้ว