หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ชื่อ “แพทองธาร”

โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2567 ขยายตัวได้ 2.3% ซึ่งยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าศักยภาพ และยังต่ำกว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยชุดที่แล้ว หรือรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยปีละ 5% ในปี 2567-2570

ภารกิจที่สำคัญของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในรัฐบาลผสม คือ การกำกับดูแลให้ทิศทางนโยบายเศรษฐกิจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเมื่อพิจารณาจากรายชื่อโผรัฐมนตรีที่ออกมาในขณะนี้พบว่าส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งทำให้นโยบายหลายส่วนอยู่ในการกำกับดูแลของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านพลังงาน รวมถึงนโยบายในภาคการผลิตทั้งด้านการเกษตรและด้านอุตสาหกรรม รวมถึงนโยบายด้านแรงงานที่พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายใหญ่ปรับค่าแรงเป็นวันละ 400 บาท ทั่วประเทศ

ในรัฐบาลชุดที่แล้วมีนโยบายเศรษฐกิจหลายส่วนที่มีปัญหาในการขับเคลื่อน โดยนโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป มีการปรับเปลี่ยนทั้งแนวทางการจัดหาแหล่งงบประมาณ รูปแบบการแจกเงิน รูปแบบแพลตฟอร์มระบบชำระเงิน และท้ายที่สุดรัฐบาลนายเศรษฐา ไม่สามารถดำเนินการได้จบ และเมื่อเข้าสู่รัฐบาลใหม่ต้องมีการปรับรูปแบบบางส่วนจากเงินดิจิทัลเป็นเงินสด ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้เป็นภารกิจสำคัญของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจต้องจัดการ

การบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทยใช้รูปแบบดำเนินการผ่านคณะกรรมการ ซึ่งมีคณะกรรมการระดับชาติด้านเศรษฐกิจหลายชุดที่นายกรัฐมนตรีควรให้ความสำคัญเป็นประธานเอง โดยการหารือกับส่วนราชการนอกรอบเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่การทำงานของส่วนราชการที่อิงกับกฎระเบียบและข้อกฎหมาย จึงทำให้การขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการหลายชุดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายยังเป็นสิ่งที่สำคัญ

หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลนับจากนี้มีภารกิจที่ต้องดำเนินการทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นขึ้นมา รวมถึงมาตรการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะมีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศในระยะยาว ซึ่งประเทศไทยกำลังสูญเสียความเป็นผู้นำหลายส่วนจึงไม่แปลกที่มูลค่าการส่งออกของประเทศไทยสู้ภูมิภาคไม่ได้ ดังนั้นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่มีผู้ให้คำแนะนำที่หลากหลายและชัดเจน จึงขึ้นกับตัวผู้นำเศรษฐกิจที่จะแอกชันได้แค่ไหน