เปิดไทม์ไลน์รับเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มเปราะบาง 25-28 ก.ย.67 นี้
“คลัง” แจงไทม์ไลน์โอนเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ตเฟสแรก ให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ทยอยเข้าบัญชีพร้อมเพย์ 25-28 ก.ย.67
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเดินหน้าในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟสแรกสำหรับกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ 12.4 ล้านคน และผู้พิการ 2.1 ล้านคน โดยจะเป็นการโอนเงินเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์ที่เชื่อมกับเลขบัตรประชาชน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.ย.67 นี้
โดยแบ่งตามวันที่ ดังนี้
วันที่ 25 ก.ย.67 กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้พิการ 2.6 ล้านคน และผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 0
วันที่ 26 ก.ย.67 ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 1, 2 ,3
วันที่ 27 ก.ย.67 ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 4, 5, 6, 7
วันที่ 28 ก.ย.67 ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 8, 9
“โดยการจัดกลุ่มการโอนเงินแต่ละวันให้กับผู้ได้รับสิทธิ เพื่อไม่ให้กระทบการจ่ายเงินเดือน และอื่นๆ เฉลี่ยจะจ่ายเงินให้ผู้รับสิทธิกลุ่มดังกล่าววันละ 4-5 ล้านคน”
ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.5 ล้านคน โดยมีผู้ที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนสำเร็จแล้วประมาณ 11 ล้านคน ขณะที่ส่วนที่ยังไม่มีบัญชีพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนกว่า 2 ล้านคน โดยขอให้กลุ่มนี้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้สามารถรับเงินได้ตามกำหนด
ทั้งนี้ หากทำไม่ทันตามกำหนดจะต้องรอรับเงินในรอบถัดไป โดยอย่างช้าที่สุดไม่เกินสิ้นปีนี้ ไม่เช่นนั้นเงินจะถูกโอนกลับเข้าคืนรัฐ
ลงทะเบียนพร้อมเพย์
สำหรับช่องทางในการผูกพร้อมเพย์ ผ่าน 3 ช่องทาง
1.ติดต่อสาขาธนาคารที่มีบัญชีออมทรัพย์
2.ดำเนินการผ่านตู้เอทีเอ็ม
3.ผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง
ส่วนการโอนเงินให้ผู้พิการ กรมบัญชีกลางมีบัญชีอยู่แล้ว ซึ่งจะมีการโอนเข้าบัญชีตามกำหนดวันที่ 25 ก.ย.67 นี้
ยันเฟส 2 ยังทำต่อ
นายลวรณ กล่าวต่อว่า สำหรับการเดินหน้าโครงการในเฟส 2 ขึ้นอยู่กับการเชื่อมระบบ ซึ่งเมื่อเฟสแรกดำเนินการสำเร็จแล้ว แรงกดดันก็จะลดลง และจะมีเวลาในการทำระบบให้ดีขึ้น ลดข้อกังวลในการใช้งาน อีกทั้งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ส่วนคำถามว่าจะมีงบประมาณไว้ใช้สำหรับดำเนินการเฟส 2 หรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณงบฯ ปี 2568 จำนวน 1.8 แสนล้านบาทแล้ว อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับการจัดสรรจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนในระบบทั้งหมด 32 ล้านคน ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้ล้มเลิกการจ่ายเงินให้กับกลุ่มประชาชนทั่วไป
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์