มูลค่า“ดิจิทัลวอลเล็ต”อยู่ที่“ดาต้า”กระตุ้นศก.ทั้้งทีต้อง“ทำถึง”
“ฆ่าควาย อย่าเสียดายเกลือ”คำพูดนี้มีความหมายว่า ลงทุนทำทั้งทีต้องทำให้ถึง อย่ามัวเสียดายสิ่งเล็กๆน้อยๆ จนการลงทุนแทนไมได้อะไรนอกจากได้เอา “ทุน” ไป“ลง”ทิ้งเสีย ขอนำข้อคิดนี้มาเปรียบเทียบกับ“โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท”
ที่ตั้งท่าว่าจะเป็นพายุโหมสังคมและเศรษฐกิจไทยให้เติบโตและเข้าสู่ยุคดิจิทัล แต่แล้วหลายปัจจัยทำให้โครงการดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างที่ตั้งใจ
“ไม่ได้ล้ม แค่ลดเพดานลง” ล่าสุด รัฐบาลตัดสินใจที่จะใช้งบประมาณกลางประจำปี 2567 จำนวน 1.45 แสนล้านบาท ซึ่งเงื่อนไขระยะเวลาการใช้เงิน และความตั้งใจที่จะรักษาโมเมนตั้มทางเศรษฐกิจให้ปี 2567 จบสวยด้วยจีพีดี 2.7% จึงกดปุ่มโครงการแจกหมื่นบาทเฟสแรกให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้
"คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีดตัวขึ้นได้ 0.35% จากการใช้เงินของกลุ่มที่คิดมาแล้วว่า ใช้หมดไม่มีเก็บและใช้ไปกับของจำเป็นเพราะมีรายจ่ายที่ชัดเจนด้วยสถานะที่เป็นกลุ่มเปราะบาง จึงไม่ต้องมีNagative List หรือสินค้าและบริการห้ามใช้จ่ายในโครงการฯ ดังนั้นการจ่ายเป็น“เงินสด” จึงถือว่าถูกต้องแล้ว ไม่ต้องโหลดแอป ไม่ต้องกดลิงค์ แค่มีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน "
“สิ่งที่คิด” เศรษฐกิจได้รับการกระตุ้นทันที ตั้งแต่ไตรมาส 3 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4 โดยหลักการเงินแสนล้านกระตุ้นจีดีพีได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น เงิน 1.45 แสนล้านคือการปล่อยกระสุนที่ตรงไปยังเป้าหมาย
“สิ่งที่เป็น” การเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัล กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก การเตรียมความพร้อมคนไทยจึงเป็นสิ่งจำเป็น “โครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท” อีกด้านหนึ่งคือการเตรียมความพร้อมเศรษฐกิจไทยสู่ Cashless Society แบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ทุกคนพร้อมสำหรับทุกโอกาส ดังนั้น จึงน่าห่วงว่า กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนในเฟสแรกของโครงการฯ ก็อาจเสียโอกาสที่จะได้ท่องโลกดิจิทัล แต่สิ่งที่น่าเสียดายกว่าคือ เงิน 1.45 แสนล้าน รัฐบาลไม่ได้รู้เลยว่า ใช้ไปกับอะไรบ้าง ข้อมูล หรือดาต้าคนกลุ่มนี้ จะหายไปทั้งที่เป็นกลุ่มคนที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง”
ข้อมูล หรือ ดาต้า ที่กำลังพูดถึงนี้ สามารถวิเคราะห์ได้จากพฤติกรรมการใช้เงินผ่านโครงการ แม้จะไม่สามารถบอกได้ทัั้ง 100% แต่มีข้อมูลในมือก็ดีกว่านั่งคิดเอาเอง แต่ถ้าหากรัฐบาลจะบอกว่า มีข้อมูลกลุ่มเปราะบางครบถ้วนแล้วก็ดีไป แต่ว่าด้วยเรื่องข้อมูลมากไว้น่าจะดีกว่า
การดำเนินการต่อไปจากนี้ ในรูปแบบ “คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ”ที่กำลังจะตั้งขึ้น จะต้องไปพิจารณารูปแบบโครงการ ซึ่งได้รับการยืนยันเบื้องต้น ว่า เงินหมื่นเฟสสอง คือ กลุ่มประชาชนทั่วไป ที่ตอนนี้ลงทะเบียนรวม 36 ล้านคน หัก ออกไป 14 ล้านคน ที่เป็น
กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนจำนวนหนึ่ง รวมกับการหักกลุ่มไม่ผ่านคุณสมบัติ
ตัวเลขกลมๆน่าจะอยู่ที่ 25 ล้านคนปลายๆจ่ายคนละหมื่นบาท ใช้เงินอีกหลายแสนล้านบาท ก็อย่าให้เสียเปล่าเพราะ มูลค่า “ดิจิทัลวอลเล็ต” อยู่ที่ “ดาต้า” เก็บดาต้าจากการดำเนินโครงการมาให้คุ้ม เพราะถ้ากระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทีต้อง“ทำถึง”อย่ามัวแต่เสียดายโน่นนี่ จนไม่ได้อะไรนอกจาก“ได้ใช้เงิน”เท่านั้น