"พาณิชย์ "เปิดตัว" "OCS Connect” อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการทำธุรกิจ
"รมว.พาณิชย์" เปิดตัว ระบบการให้บริการส่งออกสินค้ามาตรฐาน “OCS Connect”อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ ทำธุรกิจ ง่าย สะดวก รวดเร็ว และเบ็ดเสร็จในแพลตฟอร์มเดียว ช่วย ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการกว่า 1,150 ราย ถึงปีละกว่า 30.5 ล้านบาท
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในงานเปิดตัวมิติใหม่ Digital Trade บริการส่งออกสินค้ามาตรฐาน “OCS Connect Kick Off” ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการผลักดันหน่วยงานภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการบริการประชาชน” สำหรับกระทรวงพาณิชย์ก็เช่นเดียวกัน ได้มอบนโยบายแก่หน่วยงานในสังกัดให้ความสำคัญต่อการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เน้นการลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนนำเทคโนโลยีนวัตกรรมเข้ามาเสริม สร้างศักยภาพการค้าให้เป็นรูปธรรม พัฒนายกระดับการอำนวยความสะดวกด้านเศรษฐกิจการค้าแก่ผู้รับบริการ รวมถึงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน
กรมการค้าต่างประเทศถือเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในการพัฒนาการให้บริการภาครัฐ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบการให้บริการส่งออกสินค้ามาตรฐาน “OCS Connect” ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบ 100% พลิกโฉมการให้บริการด้านการส่งออกสินค้าที่ผู้ประกอบการไม่ต้องมาติดต่อในรูปแบบ No Visit
สนับสนุนนโยบายรัฐบาลต่อการผลักดันหน่วยงานภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการบริการประชาชนยกระดับการให้บริการภาครัฐและอำนวยความสะดวกทางการค้าในรูปแบบ Digital Trade บนระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ (e-Customs) มุ่งเน้นให้เกิดความคล่องตัวในการส่งออกสินค้ามาตรฐาน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญที่สร้างมูลค่าการค้าปีละกว่า 285,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ระบบ “OCS Connect” ครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่การออกใบทะเบียน/ใบอนุญาต การตรวจสอบมาตรฐานสินค้า จนกระทั่งการออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าเพื่อประกอบพิธีการศุลกากรขาออกผ่านระบบ National Single Window (NSW) ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และเบ็ดเสร็จในแพลตฟอร์มเดียว
โดยผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามาติดต่อ เพราะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดเอกสารที่ซ้ำซ้อน ลดขั้นตอนการดำเนินงานที่ไม่จำเป็น และรองรับการชำระค่าธรรมเนียมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ e-Payment ได้ทันที
นายพิชัย กล่าวว่า นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกรมการค้าต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ในการอำนวยความสะดวกทางการค้า ลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
โดยระบบดังกล่าวสามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการกว่า 1,150 ราย ถึงปีละกว่า 30.5 ล้านบาท ช่วยลดระยะเวลาในการขอรับบริการจาก 29 วัน เหลือไม่เกิน 30 นาที ทำให้ผู้รับบริการได้รับประโยชน์สอดคล้องกับนวัตกรรมการบริการของภาครัฐบน 4 หลักการสำคัญ คือ บริการเร็วขึ้น (Faster) บริการที่ง่ายขึ้น (Easier) ค่าใช้จ่ายบริการที่ถูกลง (Cheaper) และบริการที่ทันสมัยมากขึ้น (Smarter) ส่งผลให้กรมฯ ได้รับ “รางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ” ประเภทยกระดับการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ ประจำปี 2567 “ระดับดีเด่น” จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) อันเป็นการผลักดันการดำเนินงานตามนโยบายการปรับลดขั้นตอนการให้บริการภาครัฐ
“กระทรวงพาณิชย์พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขจัดอุปสรรค และเปิดประตูสู่โอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ ควบคู่กับการยกระดับการให้บริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม รองรับและเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ “นายพิชัย กล่าว