'วีริศ' เช็คคืบหน้ารถไฟสายอีสาน เตรียมเปิดอุโมงค์ผาเสด็จ พ.ย.นี้
“วีริศ” ลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างรถไฟเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมกลับมาเปิดอุโมงค์ผาเสด็จที่มีปัญหาฝุ่นควันอีกครั้งช่วงปลาย พ.ย. 2567 พร้อมกำชับฝ่ายบริหารวางแผนการใช้ประโยชน์โครงการให้คุ้มค่า ดันไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียน
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้เร่งลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานในโครงการสำคัญต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังความก้าวหน้าการดำเนินงานต่างๆ รวมถึงปัญหาของผู้ปฏิบัติงานในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพฯ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย) โดยได้รับฟังการบรรยายแผนการดำเนินโครงการสำคัญ อาทิ
- โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง)
- โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพ – หนองคาย
- โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ
- โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงบ้านไผ่ - นครพนม / ขอนแก่น - หนองคาย
สำหรับภาพรวมโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ปัจจุบันมีความคืบหน้าโครงการ 36% ส่วนประเด็นสถานีอยุธยานั้น ได้นำส่งรายงาน HIA ให้คณะอนุกรรมการมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อพิจารณาตามลำดับและขั้นตอนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก
ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ บริเวณอุโมงค์ผาเสด็จที่มีปัญหาฝุ่นควันนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อตรวจวัดเกณฑ์มาตรฐาน คาดว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งช่วงปลาย พ.ย. 2567
ผู้ว่าการรถไฟฯ กล่าวด้วยว่า การเดินทางลงพื้นที่สถานีขอนแก่นครั้งนี้ ยังได้รับฟังบรรยายเกี่ยวกับระบบควบคุมการเดินรถจากศูนย์กลาง (Centralized traffic control หรือ CTC) ที่ตั้งอยู่ที่อาคารสถานีขอนแก่น ทำหน้าที่ควบคุมระบบอาณัติสัญญาณ ที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่สถานีชุมทางถนนจิระ ถึงสถานีขอนแก่น ซึ่งระบบนี้ ยังสามารถจัดตารางการเดินรถ (Time table) และ การเตรียมทางอัตโนมัติ (Automatic route setting) เพื่อทดแทนผังควบคุมการเดินรถแบบเดิมของการรถไฟฯ โดยปัจจุบันการรถไฟฯ มีระบบ CTC นี้ อยู่ที่อาคารศูนย์ควบคุมบางซื่อ และอาคารสถานีขอนแก่น ซึ่งในอนาคต จะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่การเดินรถทั่วประเทศต่อไป
ขณะที่แผนการพัฒนาตลาดรถไฟขอนแก่น ได้รับฟังการบรรยายโครงการพัฒนาที่ดินเชิงธุรกิจบริเวณย่านสถานีรถไฟขอนแก่น ซึ่งมีเป้าหมายในการนำพื้นที่มาสร้างรายได้ให้กับองค์กร นอกจากนี้ ยังลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ย่านกองเก็บ สถานีหนองตะไก้ เป็นจุดสำคัญในการขนส่งสินค้าภายในประเทศของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) ด้วย
“ตนได้ขอให้ผู้บริหารช่วยกันวางแผนการใช้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ที่จะดำเนินการแล้วเสร็จในระยะเวลาอันใกล้นี้ ให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด โดยเราจะพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทยให้เติบโตต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียนให้ได้โดยเร็ว เพราะรถไฟเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการเดินทางคมนาคมที่สำคัญของพี่น้องประชาชน”