‘ทางหลวงชนบท’ ทุ่ม 4.9 หมื่นล้าน ดันโครงข่ายถนนสร้างปี 68

‘ทางหลวงชนบท’ ทุ่ม 4.9 หมื่นล้าน ดันโครงข่ายถนนสร้างปี 68

“กรมทางหลวงชนบท” ลุยลงทุนโครงข่ายถนน 4.9 หมื่นล้านบาท ประเดิมตอกเสาเข็มถนนท่องเที่ยวสายใหม่ เลียบแม่น้ำโขงนาคาวิถี ช่วงสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2 และถนนท่องเที่ยวตะนาวศรีคีรีพัฒน์ พร้อมเจรจาดึงโครงข่ายท้องถิ่นกว่า 10,000 กิโลเมตรทั่วประเทศมายกระดับมาตรฐาน

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยในงานคล้ายวันสถาปนากรมทางหลวงชนบท ครบรอบ 22 ปี วันนี้ (9 ต.ค.2567) โดยระบุว่า แผนดำเนินงาน 1 ปีหลังจากนี้ ทช. จะผลักดันการลงทุนโครงข่ายทางถนน วงเงินรวมกว่า 4.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีงบประมาณ 2568 ได้รับการจัดสรรงบราว 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 ที่ได้รับ 4.7 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเร่งรัดเบิกจ่ายครบ 100% ภายในเดือน ก.ย.2568 

สำหรับโครงการลงทุนในปีงบประมาณ 2568 แบ่งเป็น โครงการลงทุนขนาดใหญ่รวม 14 โครงการ วงเงินรวม 1.3 หมื่นล้านบาท อาทิ โครงการทางแยกต่างระดับสันป่าตอง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่, โครงการถนนสาย ชบ.3009 เชื่อมถนนทางหลวงกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) บริเวณอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นต้น 

‘ทางหลวงชนบท’ ทุ่ม 4.9 หมื่นล้าน ดันโครงข่ายถนนสร้างปี 68

นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนที่ดำเนินการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มก่อสร้างในปี 2568 เช่น โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา - อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง วงเงิน 4,841 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง - ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ วงเงิน 1,800 ล้านบาท 

ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการก่อสร้างสายทางเพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวให้ประชาชนเดินทางสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งปี 2568 ทช.จะขยายโครงข่ายไปพัฒนาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) โครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำโขงนาคาวิถีช่วงสะพานมิตรภาพไทย - ลาว (แห่งที่ 2) บริเวณพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร - จังหวัดนครพนม วงเงินลงทุน 615 ล้านบาทซึ่งปัจจุบันลงนามสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาแล้วเตรียมตอกเสาเข็มระยะแรกในปี 2568

‘ทางหลวงชนบท’ ทุ่ม 4.9 หมื่นล้าน ดันโครงข่ายถนนสร้างปี 68

อีกทั้ง จะเริ่มก่อสร้างโครงการถนนท่องเที่ยวตะนาวศรีคีรีพัฒน์ ช่วงสามแยกถนนชัยพัฒนาตัดกับ ทล.3218 - ทล.4 ช่วงอำเภอหัวหินและปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 720 ล้านบาท โดยโครงการพัฒนาโครงข่ายทางถนนเพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย (ไทยแลนด์ริเวียร่า) ที่สามารถเพิ่มเส้นทางคมนาคมเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว สร้างความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยว และส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว

นายมนตรี กล่าวด้วยว่า หลังเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบทตนมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงข่ายทางถนนทั่วประเทศ ดำเนินการยกระดับจากถนนลูกรังสู่ถนนคอนกรีตทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันเหลือถนนลูกรัง ระยะทาง 557 กิโลเมตร จากถนนที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ทช. ระยะทางรวม 50,233 กิโลเมตร อีกทั้งในปี 2568 ทช. จะหารือร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อรับมอบถนนต่างๆ มาพัฒนาให้ได้มาตรฐาน เชื่อมต่อกับถนนทางหลวง ซึ่งเบื้องต้นจะรับมอบถนนท้องถิ่นรวมระยะทาง 10,000 กิโลเมตร