'บาฟส์'ปรับพอร์ตครั้งใหญ่ ลุยลงทุน 'อีโคซิสเต็ม-ดาต้าเซ็นเตอร์-ไฟสะอาด'

'บาฟส์'ปรับพอร์ตครั้งใหญ่ ลุยลงทุน 'อีโคซิสเต็ม-ดาต้าเซ็นเตอร์-ไฟสะอาด'

"บาฟส์" ปรับพอร์ตธุรกิจครั้งใหญ่ ลุยลงทุนทั้ง อีโคซิสเต็ม ดาต้าเซ็นเตอร์ และไฟสะอาด รับเทรนด์ตลาดโลก เติบโตอย่างยั่งยืน

KEY

POINTS

  • ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยอมรับว่ามีผลต่อราคาน้ำมันแน่นอน บาฟส์เองมองไว้ 3 พาร์ท คือ หากการสู้รบไม่บานปลายราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับเกือบ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • หากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซจะกระทบกับช่องทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 5 ของโลกราว 20% ดังนั้น ราคาที่เห็นตอนนี้บวกไปอีก 30 ดอลลาร์ ซึ่งจะพุ่งกว่า 100 ดอลาร์ต่อบาร์เรล ต้นทุนสายการบิน30% 
  • บาฟส์อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ Direct PPA ขนาด 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งมองว่าตลาดยังมีการขยายตัวเยอะ ซึ่งอาจจะร่วมกับ partner เพราะข้อดีคือบางโครงการมีความเสี่ยง บริษัทยังไม่มีนวัตกรรมและประสบการณ์มากพอ 

จากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงรุนแรงในขณะนี้ โดยเฉพาะสงครามตะวันออกกลาง ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานโลกที่จะยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ธุรกิจที่มีความต้องการใช้น้ำมันในปริมาณมาก ก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน

หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS กล่าวว่า จากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยอมรับว่ามีผลต่อราคาน้ำมันแน่นอน มุมมอง บาฟส์เองมองไว้ 3 พาร์ท คือ หากการสู้รบไม่บานปลายราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับเกือบ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่หากเริ่มมีการตอบโต้ราคาะจบวกไปอีกราว 15 ดอลลาร์ และกรณีเลวร้ายที่สุดหากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซจะกระทบกับช่องทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 5 ของโลกราว 20% ดังนั้น ราคาที่เห็นตอนนี้บวกไปอีก 30 ดอลลาร์ ซึ่งจะพุ่งกว่า 100 ดอลาร์ต่อบาร์เรล ต้นทุนสายการบิน30% 

อย่างไรก็ตาม จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก ส่งผลให้ธุรกิจการบินกลับมาที่ระดับ 80% เทียบเท่ากับก่อนเกิดโควิด ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้จะโตถึง 88% แต่จะยังไม่ 100% เพราะตลาดจีนยังไม่ฟื้น ส่วนรายได้กลุ่มบริษัทปีนี้คาดว่าจะเติบโต 18% ส่วนธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานมีมุมมองบวก เพราะมีปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่อเพิ่มขึ้นมาก 

สำหรับภาพรวมธุรกิจปีหน้าจะยังมีมุมมองบวกเพราะอยู่ในช่วงการฟื้นตัว ส่วนปัจจัยลบเนื่องจากธุรกิจหลักบริษัทฯ ยังพึ่งพิงตลาดการท่องเที่ยว รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม เป็นต้น ดังนั้น รัฐบาลจะต้องดึงนักท่องเที่ยวไปเที่ยวภาคอื่น เช่น ภาคใต้แทนตามนโยบาย Soft Power ซึ่งทั่วโลกชื่นชอบไทย จึงอยากให้ตอกย้ำความมั่นใจว่ามาเมืองไทยยังเที่ยวได้และปลอดภัยอยู่ และสิ่งสำคัญช่วงปลายปีของทุกปีอยากฝากรัฐบาลในเรื่องของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่กระทบการท่องเที่ยวโดยตรง 

ทั้งนี้ บาฟส์ ได้ผลักดันและพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) มาโดยตลอด ปัจจุบันทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันและเริ่มเห็นประเทศไทยได้เริ่มทดลองใช้แล้ว หวังว่ากระทรวงพลังงานจะมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องของการกำหนดสัดส่วนเชื้อเพลิง SAF เบื้องต้น ความเหมาะสมอยู่ที่ 1-2% เพื่อให้เกิดการลงทุน หากนโยบายยังไม่ชัด นักลงทุนจะต้องรอ

ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานปัจจุบันมีราว 40 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่ม ซึ่งบริษัทพร้อมยื่นขอรับสิทธิขายไฟสะอาดเฟส 2 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) จำนวนรวมทั้งสิ้น 2,180 เมกะวัตต์

"หากชนะการนำเสนอครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสให้ได้ขยายสัดส่วนพลังงานสะอาดในไทยด้วย อีกทั้ง จะไปเพิ่มเติมโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน ที่เราร่วมกับ Partner และชนะการประมูลมา ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ จ.สุราษฎร์ธานีจำนวน 9.9 เมกะวัตต์ ซึ่งบาฟส์ได้ร่วมกับบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ลัคกี้ คลีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ไบเซล เวสท์ เอ็นเนอร์ยี่"

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ Direct PPA ขนาด 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งมองว่าตลาดยังมีการขยายตัวเยอะ จากแนวนโยบายรัฐบาลที่พยายามส่งเสริมให้เอกชนได้ซื้อ-ขาย ไฟได้โดยตรง โดยอาจยื่นเองโดยตรงและร่วมกับ partner ซึ่งข้อดีของการร่วมทุน เนื่องจากบางโครงการมีความเสี่ยง บริษัทเองยังไม่มีนวัตกรรมและประสบการณ์มากพอ 

"เราจะทำ Solar เพราะมองว่าความเสี่ยงต่ำ ตอนขึ้นโครงการที่มองโกเลีย เป็นโครงการแรกของกลุ่มบริษัททำโซลาร์และระบบแบตเตอรี่สำรองไฟ จึงมองว่าประเทศไทยมีโอกาสจะได้นำมาใช้ ส่วนจำนวนเมกะวัตต์ต้องรอดูก่อน" 

นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจ Data Center บริษัทก็สนใจในธุรกิจนี้เช่นกัน รวมถึงเดินหน้าเป็นพันธมิตรกับกลุ่มบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งกัลฟ์ดำเนินธุรกิจหลายสาขา บริษัทได้หารือด้านธุรกิจสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะบาฟส์ทำอยู่แล้ว จึงมีแนวคิดคล้าย ๆ กันในบางเรื่องเพื่อจะร่วมทุนกันได้ เช่น โครงการท่อขนส่งน้ำมัน ซึ่งที่มาบตาพุด กัลฟ์ก็ทำท่าเรือ LPG บาฟส์ก็สนใจเพราะเรากำลังทำระบบเติมน้ำมันอยู่ใน EEC จะมี synergy ที่เกิดขึ้น คาดจะสามารถสรุปดิวได้กลางปี 2568