'แพทองธาร' จับเข่าคุย ‘กกร.’ จ่อคลอดมาตรการแก้หนี้กลุ่มเปราะบาง - SMEs

'แพทองธาร' จับเข่าคุย ‘กกร.’  จ่อคลอดมาตรการแก้หนี้กลุ่มเปราะบาง - SMEs

“แพทองธาร” จับเข่าคุย กกร.เตรียมคลอดมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน – SMEs อีก 1 - 2 สัปดาห์ เจาะจงช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง บ้านหลังแรก เอสเอ็มอีรายย่อย พร้อมคลอดมาตรการห้ามยึดรถกระบะ สมาคมธนาคารไทย หวังมาตรการระยะกลาง – ยาว ช่วยเพิ่มความสามารถลูกหนี้

วันนี้ (28 ต.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล  คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เข้าพบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาในการหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่าในการหารือกับตัวแทนของภาคเอกชนในวันนี้ ได้ข้อสรุปในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยในเรื่องเร่งด่วนคือ การแก้ปัญหาหนี้โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน และหนี้เอสเอ็มอีที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลได้มีการหารือกับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะมีมาตรการในการแก้ไขเรื่องนี้ออกมาซึ่งในส่วนที่จะดูแลคือหนี้ครัวเรือน รวมไปถึงหนี้รถกระบะที่เป็นเครื่องมือในการทำม าหากิน และประกอบอาชีพ ค้าขาย ซึ่งจะมีมาตรการที่ออกมาดูแลในส่วนนี้

 

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า มาตรการในการแก้หนี้ที่จะมีการประกาศออกมาอย่างชัดเจนภายใน 1 – 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งจะครอบคลุมหลายส่วนที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ต้องการได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มลูกหนี้ที่กู้เงินซื้อบ้านหลังแรก กลุ่มลูกหนี้ที่ใช้รถกระบะในการประกอบอาชีพ และทำมาหากิน กลุ่มเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ซึ่งมาตรการนี้จะมีทั้งลดภาระเงินต้น ลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ในกลุ่มเปราะบางที่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งจะออกมาเป็นมาตรการคู่ขนานทั้งเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ รวมทั้งแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินที่จะเป็นสินเชื่อเพิ่มเติมเข้ามาในระบบมากขึ้น

ซึ่งมาตรการในส่วนนี้จะเป็นมาตรการที่จะเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนที่จะมีมาตรการระยะกลาง และระยะยาวเข้ามาช่วยเหลือที่เป็นมาตรการในลักษณะของการเพิ่มทักษะ เพิ่มความสามารถให้กับลูกหนี้เพื่อให้สามารถที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในระยะยาว

“การให้ความช่วยเหลือในมาตรการที่จะออกมาเป็นมาตรการที่จะช่วยเพื่อให้ลูกหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความจำเป็นในระยะสั้น แต่ก็จะดูให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาในระยะกลาง และระยะยาวด้วย แต่จะไม่ใช่การช่วยเหลือเพื่อให้ไปบริโภคแบบฟุ่มเฟือยที่จะเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐไปอย่างสิ้นเปลือง”

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการในการแก้หนี้ที่จะออกมาภายใน 1 – 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งจะออกมาหลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการ กกร.วันที่ 6 พ.ย.67 ซึ่งเป็นมาตรการที่หลายภาคส่วนได้มีการทำร่วมกันทั้งภาครัฐ ธปท.และภาคเอกชน โดยสมาคมธนาคารไทยได้เป็นตัวแทนของ กกร.ในการทำงานในเรื่องนี้ โดยเรื่องของหนี้สินถือว่าเป็นปัญหาสำคัญ และในวันนี้ก็ได้มีการหารือกับรัฐบาลซึ่งข้อตกลงที่มีการพูดคุยกันในที่ประชุมก็คือ เรื่องของการที่มีรถกระบะที่ถูกยึดจำนวนมากทำให้กระทบกับการประกอบอาชีพของประชาชน

ซึ่งที่ผ่านมาเราทราบกันดีว่ารถกระบะเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินจึงไม่อยากให้ถูกไฟแนนซ์หรือธนาคารยึดเพราะจะกระทบกับการทำมาหากินประกอบอาชีพ และการค้าขายของประชาชน

                                                                                                                                          ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้รับทราบปัญหา และเห็นด้วยกับเรื่องนี้ มาตรการนี้จึงจะมีการหารือร่วมกันกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้แก่ ธปท. ธนาคารพาณิชย์ บริษัทไฟแนนซ์แล้วจะมีการออกเป็นมาตรการออกมาไม่ให้มีการยึดรถกระบะเป็นการชั่วคราวซึ่งจะทำให้คนที่ประกอบอาชีพที่ใช้รถประเภทนี้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปได้

"รัฐบาลรับเรื่องนี้ไปดำเนินการแล้ว ก็จะต้องมีการหารือ และได้รับความร่วมมือจากธนาคาร และไฟแนนซ์ ซึ่งจะมีมาตรการออกมา เรื่องนี้ใช้เงินไม่มาก แต่ก็ต้องมีการคัดกรอง เช่น รถปิกอัพราคา 800,000 บาท ผ่อนไปแล้ว 400,000 บาท  ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็แซวว่า ธนาคารกำไรดีก็อต้องมาสนับสนุน"                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์