ทย.จ่อเลิกสัญญาผู้รับเหมาทิ้งงาน เร่งสร้าง 'เทอร์มินัลใหม่สนามบินตรัง'
“กรมท่าอากาศยาน” เร่งหาผู้รับเหมาใหม่ สานต่องานก่อสร้าง “อาคารผู้โดยสารหลังใหม่สนามบินตรัง” 1.2 พันล้าน หลังผู้รับเหมาทิ้งงาน เหตุขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง ด้าน “มนพร” จี้แล้วเสร็จเปิดบริการภายในปี 2568 รองรับไฮซีซั่น
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการขยายขีดความสามารถ ท่าอากาศยานตรัง โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ทย.ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรัง แต่พบว่าประสบปัญหาผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน และไม่มีบุคลากรประจำที่หน่วยงาน เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง จึงทำให้การเปิดให้บริการช้ากว่าแผนที่กำหนด
ทั้งนี้ ทย.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยที่ผ่านมาดำเนินการหลังจากสิ้นสุดกำหนดระยะเวลาตามสัญญา วันที่ 22 เม.ย. 2567 ได้ส่งหนังสือถึงผู้รับจ้าง ประกอบด้วย หนังสือแจ้งเรียกค่าปรับกรณีผิดสัญญาจ้าง หนังสือเร่งรัดให้ส่งงาน 2 งวดที่เหลือ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ งานทดสอบทุกระบบ ไฟถนน และงานคงเหลือทั้งหมด และหนังสือแจ้งสงวนสิทธิ์บอกเลิกสัญญาจ้าง
อีกทั้งได้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจรับ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับจ้าง (ครั้งที่ 1) เพื่อติดตามเร่งรัดงานผู้รับจ้างรับทราบการสงวนสิทธิ์บอกเลิกสัญญา และยังประสงค์จะดำเนินการสร้างต่อ ต่อมาได้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจรับผู้ควบคุมงาน ผู้รับจ้าง (ครั้งที่ 2) แจ้งให้ผู้รับจ้างเร่งเข้าทำงาน ผู้รับจ้างยืนยันจะมีบุคลากรเข้างานภายในวันที่ 5 ต.ค.2567
หลังจากนั้นมีการประชุมคณะกรรมการตรวจรับ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับจ้าง (ครั้งที่ 3) เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้า จึงแจ้งให้ผู้รับจ้างเร่งรัดเข้าทำงานอีกครั้ง มิฉะนั้นจะบอกเลิกสัญญาจ้าง ผู้รับจ้างแจ้งอยู่ระหว่างเจรจาหาแหล่งเงินทุนในวันที่ 16 ต.ค.2567 เพื่อดำเนินการต่อ จนกระทั่งวันที่ 30 ต.ค.2567 ในการประชุมคณะกรรมการตรวจรับ ผู้ควบคุมงาน รายงานว่ายังไม่มีการเข้าทำงาน
ทั้งนี้ คณะกรรมการจึงมีมติเห็นควรบอกเลิกสัญญาจ้างเพื่อให้ผู้รับจ้างรายใหม่ดำเนินการต่อ ขณะนี้ ทย. อยู่ระหว่างเสนอยกเลิกสัญญาจ้างตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการหาผู้รับจ้างรายใหม่มาดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จและเปิดใช้งาน
นายดนัย กล่าวเสริมว่า เมื่ออาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรังเปิดให้บริการจะสามารถรองรับผู้โดยสาร 1,200 คนต่อชั่วโมง หรือ 3.4 ล้านคนต่อปี ความยาวทางวิ่ง 45 x 2,100 เมตร ลานจอดอากาศยานสามารถรองรับอากาศยานแบบ B737/A320 ได้พร้อมกัน 14 ลำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ลานจอดรถยนต์กลางแจ้งสามารถรองรับรถยนต์ได้ 1,000 คัน
รวมไปถึงสะพานเทียบเครื่องบิน จำนวน 2 ชุด ลิฟต์โดยสารจำนวน 11 ชุด และบันไดเลื่อนจำจวน 6 ชุด คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 นี้ ส่วนโครงการก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน จากเดิม 45 x 2,100 เมตร เป็น 45 x 2,990 เมตร ปัจจุบันความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ ก.ย.2567 คืบหน้า 35.97% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2569
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรัง มีมูลค่าโครงการราว 1.2 พันล้านบาท โดยปัจจุบันผู้รับเหมาได้ก่อสร้างงานเสร็จ พร้อมส่งงวดงานและเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 98% แต่กลับมีการทิ้งงานในงวดสุดท้าย จนผ่านกำหนดเวลาส่งมอบงานตามสัญญาจ้างมานานกว่า 6 เดือน และส่งผลทำให้อาคารผู้โดยสารมีสภาพชำรุดทรุดโทรม
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตนสั่งการให้ ทย. เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานตรังให้แล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการประชาชนภายในสิ้นปี 2568 เพื่อรองรับการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นของจังหวัดตรัง พร้อมกำชับให้เตรียมความพร้อมให้บริการในทุกด้าน ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก มาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภายในท่าอากาศยานให้มีความรวดเร็วและเป็นระบบ
นอกจากนี้ยังสั่งการให้ ทย. เร่งประสานงานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เข้ามาทดสอบระบบต่างๆ ให้มีความพร้อมใช้งาน ในส่วนของผู้โดยสารระหว่างประเทศให้เตรียมความพร้อมรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศในอนาคต โดยให้เตรียมความพร้อมด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ด่านกักกันพื้นที่โรคและสัตว์ รวมถึงด่านตรวจสุขภาพของบุคคลทั่วไป
นางมนพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยังเร่งรัดให้ ทย. ดำเนินโครงการก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน จากเดิม 45 x 2,100 เมตร เป็น 45 x 2,990 เมตร โดยคาดว่าการต่อเติมความยาวทางวิ่งของสนามบินจะสามารถช่วยแก้ปัญหาตั๋วเครื่องบินราคาแพงได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีความต้องการในการเดินทางสูง และสายการบินมีจำนวนเที่ยวบินที่จำกัด การต่อเติมความยาวทางวิ่งทำให้สายการบินสามารถใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มความจุผู้โดยสาร และลดความแออัดของเที่ยวบินได้