‘สภาพัฒน์’ – ‘กกร.’ แนะไทยรับมือ‘ทรัมป์’ จ่อคลอดมาตรการกีดกันการค้ารอบใหม่

‘สภาพัฒน์’ – ‘กกร.’ แนะไทยรับมือ‘ทรัมป์’ จ่อคลอดมาตรการกีดกันการค้ารอบใหม่

“สภาพัฒน์”แนะไทยเตรียมทำคำชี้แจงหากสหรัฐฯแสดงท่าทีกีดกันทางการค้าเพิ่ม ระบุยังมีเวลาเตรียมการก่อนทรัมป์รับตำแหน่งในเดือน ม.ค. เปิด 6 แนวโน้มนโยบายหลังรีพลับรีกันคุมทั้งสภาล่างและสภาสูง ด้าน "กรร." เฝ้าระวังสินค้าที่ไทยได้ดุลการค้าจากสหรัฐฯถูกกีดกันมากขึ้น

รายงานข่าวจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่าภายหลังจากทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพลับรีกัน ชนะการเลือกตั้ง และพรรครีพลับรีกันชนะการเลือกตั้งในสภาสูง (Senate) ในสหรัฐฯด้วยซึ่ง สศช.กำลังติดตามนโยบายที่ทรัมป์จะแถลงอย่างเป็นทางการว่าเหมือนหรือต่างกับที่ได้มีการหาเสียงเอาไว้หรือไม่

“ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ สศช.ได้มีการแจ้งให้ที่ประชุมทราบแล้วว่าให้เฝ้าระวัง และทำรายละเอียดต่างๆที่อาจจะต้องชี้แจงถ้าอเมริกาเริ่มตั้งท่าจะกีดกันทางการค้า เพราะประเทศไทยก็เป็นประเทศที่อาจอยู่ในข่ายที่ต้องเฝ้าระวังเพราะที่ผ่านมาในช่วงที่มีการกีดกันการค้าในช่วงที่ผ่านมาไทยก็โดนเพ่งเล็งเช่นกัน”

ก่อนหน้านี้ สศช.ได้มีการจัดทำรายงานพิเศษเรื่องแนวโน้มนโยบายสหรัฐฯภายหลังการเลือกตั้ง โดยทำสมมุติฐานไว้ 4 กรณีที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งในกรณีที่ผลการเลือกตั้งออกมาแล้วพรรครีพลีบรีกันชนะการเลือกตั้งทั้งประธานาธิบดี และชนะในการเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (Sweep Scenario) ก็จะส่งผลต่อการผลักดันกฎหมายต่างๆ ของประธานาธิบดี

 

จับตา 6 นโยบายทรัมป์-รีพลับรีกัน 

โดยกรณีที่พรรครีพลับรีกันชนะการเลือกตั้งทั้งสองส่วนจะส่งผลต่อนโยบายด้านต่างๆดังนี้

1.นโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศ นโยบายของทรัมป์และพรรครีพรรครีกันมีแนวโน้มที่ดำเนินมาตรการทาการค้าต่อจีนอย่างมีความเข้มข้น โดยอาจนำไปสู่การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 60% และขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศอื่นๆอีก  10%

2.ต่ออายุการลดหย่อนภาษี ซึ่งเป็นมาตรการที่ทรัมป์เคยดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในบางจุด แต่ที่ผ่านมามีการพูดถึงการลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% ลงมาเป็น 15% และจะยกเลิกแผนการปรับขึ้นภาษีรายได้บุคคลธรรมดาของกลุ่มคนร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นต้น

3.นโยบายอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม โดยนโยบายของทรัมป์และพรรครีพลับรีกันจะดำเนินการปรับแก้กฎหมายและกฎระเบียบให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจสนับสนุนการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดบทบาทของกฎหมาย Inflation Reduction Act และยกเลิกเครดิตภาษีคาร์บอน

4.นโยบายด้านผู้อพยพและแรงงานต่างชาติ นโยบายของทรัมป์และนโยบายพรรครีพลับรีกัน มีนโยบายงดการให้สิทธิการเป็นสัญชาติอเมริกันสำหรับเด็กที่เกิดในประเทศ แต่บุพการีไม่มีใบแจ้งการอพยพถิ่นฐาน

5.นโยบายด้านสวัสดิการสังคม นโยบายของทรัมป์และพรรครีพลับรีกัน มีนโยบายในการปรับปรุง/ยกเลิก the Affordable Care Act โดยเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายของประชาชน และให้แต่ละมลรัฐเป็นผู้กำหนดกฎหมายการทำแท้ง อีกทั้งสนับสนุนสิทธิในการถือครองปืนอย่างทั่วถึง

และ 6.นโยบายการเมืองระหว่างประเทศ นโยบายของทรัมป์และพรรครีพลับรีกัน ได้แสดงจุดยืนเรื่องยกเลิกความช่วยเหลือแก่ยูเครนแต่ยังให้การสนับสนุนอิสราเอล และมีจุดยืนที่ไม่สนับสนุน NATO

กกร.ห่วงสินค้าเกินดุลสหรัฐเสี่ยงโดนกีดกันสินค้า

ด้านคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยข้อมูลเรื่องผลกระทบจากการเลือกตั้งสหรัฐฯและทรัมป์ชนะการเลือกตั้งจะส่งผลอย่างมีนัยยะต่อเศรษฐกิจไทย โดยเบื้องต้นถือเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจที่มีการเกินดุลกับสหรัฐฯ การเปลี่ยนผู้นำสหรัฐฯ อาจจะกระทบการส่งออกไทยผ่านมาตรการขึ้นภาษีการนำเข้าและการกีดกันทางการค้ารอบใหม่โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่เกินดุลการค้าสูงและมูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ดี เช่น ฮาร์ดดิสกไดรฟ์ เซมิคอนดักเตอร์ ยางล้อ

และอีกกลุ่มหนึ่งคือสินค้าที่เกินดุลการค้าปานกลางและมูลค่าการส่งออกที่ขยายตัวรวดเร็ว เช่น เครื่องปรับอากาศ โซลาร์เซลล์ เป็นต้น ซึ่งจำเป็นจะต้องติดตามความความคืบหน้าของนโยบายเหล่านี้ต่อไปเป็นระยะๆ